เพิ่งจะจบกันไป กับการประกาศคัดเลือกโป๊ป หือพระสันตะปาปา ซึ่งเป็นผู้นำศาสนาคนใหม่ของแวดวงชาวคริสต์ สำนักข่าวบางช่อง ยังเกริ่นเล่าเรื่องราวไปถึงเรื่องของข้อเท็จจริงที่ว่า ทุกวันนี้มีผู้เปลี่ยนข้ามศาสนาไปมากันเป็นพัลวัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เปลี่ยนตามคนรักหรือคู่ครองนั่นเอง (บางส่วนก็เปลี่ยนเอง)
ก็อย่างที่ว่า ความรักนั้นเป็นสิ่งสากลและทรงพลังเหนือกว่าศาสนาใดๆจะมาขวางกั้นได้ (Power of Love) หากต้องเปลี่ยนระหว่างคนรักกับศาสนา คนส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยลังเลที่จะเปลี่ยนอย่างหลัง ดังนั้น ในอนาคต คุณก็อาจเป็นคนหนึ่งในนั้นก็ได้ ยิ่งใกล้เวลาที่ประเทศไทยเราจะเข้าสู่การรวมเป็นประชาคมอาเซียนกับชาติอื่นๆแล้วด้วย เรามาศึกษาธรรมเนียมเกี่ยวกับการครองคู่ของคนต่างศาสนากันเล็กน้อย รู้เอาไว้ เผื่อคราใดที่หาคู่หรือหาแฟนข้ามศาสนาได้ จะกลายเป็น ‘ความรักที่ไร้พรมแดน’ โดยไม่เผลอปล่อยไก่ให้แฟนของคุณต้องอับอายเว็บพนันออนไลน์
• ศาสนาคริสท์
ศาสนาคริสท์นี้ ตามสถิติแล้ว มีผู้เข้าไปรับเชื่อกันมากที่สุด โดยเฉพาะคนไทยและคนเอเชีย ก็จะไม่ให้เป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ในเมื่อภาพของความอบอุ่นในชุมชนและกลุ่มของชาวคริสท์ มีให้เห็นอยู่ตามโบสท์ต่างๆ ยิ่งหากเป็นคุณสุภาพสตรีด้วยแล้ว ภาพงานแต่ง และบรรยากาศแห่งความโรแมนติกในโบสท์คาทอลิก (คริสตาง) ผสมกับดนตรีแบบยุคกลาง ยิ่งทำให้น่าหลงใหลเข้าไปใหญ่ หรือถึงแม้จะเป็นแบบนิกายโปรเตสแตนท์ (คริสเตียน) ซึ่งเน้นความเรียบง่าย ไม่อลังการ แต่เอาเพียงแค่บรรยากาศการกล่าวคำปฏิญาณแก่กันและกัน ต่อหน้าสักขีพยานทั้งหลาย โดยทั่วไปแล้ว ชาวคริสท์มักจะไม่บังคับให้คู่ครองเปลี่ยนศาสนา แต่จะให้อิสระในการตัดสินใจกับคนๆนั้นเอง พวกเขาเพียงให้ความสำคัญหรือเน้นไปที่เรื่องความสัมพันธ์ รวมถึงการปฏิบัติตัวซะมากกว่า คุณจะยังนับถือศานาเดิมก็ไม่เป็นไร แต่ไม่ควรเชื่อในวัตถุ รูปปั้น เรื่องงมงายไสยศาสตร์ หรือฤกษ์ยามใดๆ แต่จงวางในพระเจ้า และควรจะเจียดเวลาวันอาทิตย์ ไปเข้าโบสท์ฟังเทศน์ หรือมีปฏิสัมพันธ์กับชุมชนของเขาบ้าง ที่สำคัญการรับประทานอาหารเย็นร่วมกับครอบครัวของเขาหรือเธอในวันดังกล่าว ก็ไม่ควรจะขาดเช่นกันนะครับ
• ศาสนาอิสลาม
อีกหนึ่งในศาสนาที่ป๊อบปูล่าร์มั่กๆสำหรับสาวสมัยนี้ เรียกว่ามีดารานักร้องทั้งไทยและเทศ ทั้งชายและหญิงจำนวนมาก ที่แต่งงานเข้าอิสลามไปหลายคนแล้ว ส่วนที่ไม่ใช่ดาราคนดังก็เยอะพอสมควร โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ธรรมเนียมของอิสลามในประเทศไทยนั้น ไม่ได้เคร่งครัดจนตึงเปรี๊ยะ เหมือนอย่างในบางประเทศแถบตะวันออกกลาง ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องกลัวเลยว่าจะสูญเสียอิสรภาพใดๆในการใช้ชีวิตไป การรับประทานเนื้อหมู ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเดียวที่คุณต้องยอมเสียสละ (ซึ่งก็คงไม่ทำให้ขาดสารอาหารที่จำเป็นแต่อย่างใดหรอก ) ส่วนเรื่องที่ฝ่ายชายสามารถมีภรรยาได้ถึง 4 คนนั้น เอาเข้าจริงๆก็เป็นเพียงทางเลือกของฝ่ายชาย เพราะเท่าที่เห็นมามากมาย ผู้ชายอิสลามในยุคใหม่นี้ ก็พอใจที่จะมีภรรยาเพียงคนเดียว (ต่อให้มีหลายคน ก็จะดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีน้อยไม่มีหลวง) แต่ไม่ต้องกังวล เพราะบัญญัติทางศาสนาปรามเอาไว้ว่าให้ปฏิบัติต่อภรรยาทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ที่สำคัญ เรื่องกินเหล้าเมายานั้น คุณสามารถสบายใจได้เลย เพราะชาวอิสลามที่เป็นครอบครัวส่วนใหญ่นั้น ไม่แตะต้องของพวกนั้นเด็ดขาด แค่นี้ก็มีความสุขไปกว่าครึ่งแล้วครับ
• ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
ศาสนาดังกล่าวนี้ จะว่ามีน้อยในสังคมไทยก็ไม่ใช่ พวกเขามีจำนวนมากทีเดียว และมีแหล่งชุมชนของพวกเขาเองในหลายๆจังหวัดของประเทศไทย หากรวมๆกันแล้วก็มากมายอยู่ เพียงแต่พวกเขามีความสมถะและพึงพอใจในวิถีชีวิตแบบของตนมาก ถึงแม้จะถูกมองว่ามีพิธีกรรมที่แปลกๆมากมาย และมีการแต่งกายที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม งานแต่งงานของพวกเขา อาจจะเต็มไปเครื่องประดับตกแต่ง และใช้สีสันหลากหลาย โดยเฉพาะสีแดง คุณสุภาพสตรีจะได้เป็น Lady In Red ตัวจริง ก็ในงานนี้แหละ ซึ่งก็แน่นอนว่าเจ้าสาวต้องโดดเด่นกว่าใครด้วยเครื่องประดับระยิบระยับ และต้องกล่าวสัตยาบัน อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ อัตราการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งของชาวพราหมณ์-ฮินดูนั้นน้อยมากๆ หากคุณเป็นคนที่ค่อนข้างเร่าร้อนในเรื่องดังกล่าว ก็คงต้องฝึกความอดทนให้มากๆ แต่รับรองได้ว่า เมื่องานแต่ง (ซึ่งกินเวลาหลายวัน) จบลง เข้าเรือนหอกันเมื่อไร คุณก็จะได้ปลดปล่อยอย่างเต็มที่ เพราะธรรมเนียมของพวกเขา มักจะคาดหวังให้คู่สมรสมีบุตรมีหลานกันโดยเร็วที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ด้วยนะ
• ศาสนาซิกข์
ถึงแม้ชาวศาสนาซิกข์มักจะไม่ค่อยแต่งงานข้ามศาสนา แต่สำหรับผู้ชายสมัยใหม่นี้ มีข้อยกเว้นบ้างเหมือนกัน โดยเฉพาะในสังคมไทยที่เปิดกว้าง ก็เห็นมีหนุ่มซิกข์แต่งกับสาวไทยไปหลายคนแล้วเช่นกัน โดยหลังจากงานแต่งจบลง อาจต้องมีการรับเชื่อเข้าศาสนา ที่เรียกว่า รับอมฤต หลงัจากนั้น คุณต้องงดเว้นการกราบไหว้รูปปั้นใดๆ ห้ามโกนผม โกนเครา หรือเส้นขนใดๆในร่างกายทั้งสิ้น (ยกเว้นจำเป็นทางการแพทย์) ซึ่งก็ดูเป็นเอกลักษณ์ไปอีกแบบนะครับ ศาสนาหลักๆเท่าที่เห็นในตอนนี้ มีทั้งหมดที่กล่าวมานั่นเองครับ หากท่านผู้อ่านต้องการทราบธรรมเนียมหรือเรื่องเล่าจากคู่รักในศาสนาใด