หลวงปู่ศุข เป็นพระอาจารย์ที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย เป็นที่นับถือเคารพบูชา และบารมีของท่านไม่สิ้นสุด ประวัติของท่านมีมาอย่างยาวนาน และยังคงเป็นที่สนใจของผู้คนจนยากที่จะลืมเลือนในคุณงามความดีของท่าน หลวงปู่ศุข เป็นชาวเมืองชัยนาทโดยกำเนิด ท่านเกิดปี พ.ศ. ๒๓๙๐ ตรงกับสมัยรัชกาลที่ ๔ ที่บ้านมะขามเฒ่า หรือในปัจจุบันคือ บ้านปากคลอง ตำบลมะขามเฒ่า อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท โยมบิดาชื่อน่วม มารดาชื่อ ทองดี มีภูมิลำเนาที่ตำบลมะขามเฒ่า ครอบครัวประกอบอาชีพค้าขาย และทำสวน ต่อมาพออายุได้ ๑๐ ขวบ ลุงแฟง ก็ได้ขอรับไปเลี้ยงอยู่ที่ตำบลบางเขน จังหวัดพระนคร เมื่อหลวงปู่ฯ ย่างเข้าสู่วัยรุ่น ท่านได้เดินทางเข้ามาเมืองกรุง ทำมาหากินค้าขายเล็กๆ น้อยๆ โดยยึดลำคลองบางเขนเป็นหลัก จนอายุได้ ๑๘ ปี ก็ได้ภรรยาชื่อ นางสมบูรณ์ และเกิดบุตรชายคนหนึ่งชื่อ สอน เกศเวชสุริยา ท่านได้ถือครองเพศฆราวาสอยู่เพียงไม่นาน พอท่านอายุ ๒๒ ปี ท่านก็ได้ลาไปอุปสมบท ณ วัดโพธิ์บางเขน โดยโยมบิดามารดาไม่ได้มาเข้าร่วมพิธีด้วย เพราะการเดินทางสมัยนั้นลำบากมาก
พระอุปัชฌาย์ของท่านชื่อ หลวงพ่อเชย จันทสิริ เป็นพระอาจารย์ทางฝ่ายวิปัสสนาธุระมีความรู้และความชำนาญรู้แจ้งเห็นจริง อีกทั้งยังมีวิชาด้านวิทยาคมแก่กล้า ท่านจึงได้รับถ่ายทอดวิชาความรู้จากพลวงพ่ออุปัชฌาย์ พระอาจารย์เปิง วัดชินวนาราม และหลวงปู่เฒ่า วัดหงษ์ จังหวัดปทุมธานี ต่อมาท่านได้ออกเดินธุดงค์หาที่สงบฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐานและวิชาอาคมต่างๆ จึงกราบลาอาจารย์กลับบ้านเกิด โดยมาพักอยู่ที่วัดร้างแห่งหนึ่งข้างหมู่บ้านของท่าน ชาวชาวบ้านเกิดมีความศรัทธาเลื่อมใสจึงนิมนต์ให้ท่านจำพรรษาอยู่ที่นั้น เพื่อที่จะได้สร้างวัดขึ้นมาใหม่ รวมถึงได้ดูแลโยมบิดาและมารดาของท่านด้วย ท่านจึงพัฒนาท้องถิ่นให้เจริญรุ่งเรือง และเป็นวัดที่สมบูรณ์แบบจนถึงทุกวันนี้ รวมทั้งอบรมสั่งสอนให้ชาวบ้านประพฤติดี ปฏิบัติชอบ จนประชาชนแถวนั้นมีความประพฤติดีมีศีลธรรมมากมาย หลวงปู่ฯท่าน มรณภาพลงด้วยอาการสงบในวันที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๖๖ สิริอายุขัยได้ ๗๕ ปี