สุชาดา (ธิดาของเสนานีกุฎุมพี)

สุชาดา (ธิดาของเสนานีกุฎุมพี)

นางสุชาดาเป็นธิดาของเสนานีกุฎุมพี นางเป็นผู้ถวายข้าวมธุปายาส พร้อมถาดทองคำ แก่พระโคตมพุทธเจ้า หลังพระพุทธเจ้าได้เสวย ข้าวมธุปายาสแล้วจึงขึ้นประทับ ณ โพธิบัลลังก์ริมฝั่งแม่น้ำ เนรัญชราทรงบรรลุพระสัพพัญญุตญาณ ก่อนประกาศธรรมอันประเสริฐแก่เหล่าปัญจวัคคีย์ ต่อมาบุตรชายคนโตสุชาดานามว่า ยสะ ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ ส่วนนางสุชาดาและสะใภ้ก็บรรลุโสดาบัน เช่นกัน

นางสุชาดาเป็นอุบาสิกาคนแรกในพุทธศาสนา และพระพุทธเจ้าทรงยกย่อง นางสุชาดาเป็นเอตทัคคะผู้ถึงสรณะก่อน

สุชาดา (ธิดาของเสนานีกุฎุมพี)

นางสุชาดาเป็นธิดาของเสนานีกุฎุมพี (อรรถกถาว่าเสนียะ) ในหมู่บ้านเสนานิคม ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม มีการ สันนิษฐานถึงที่ตั้งของบ้านนางสุชาดาคือสุชาตาสถูปในหมู่บ้านพักเราร์ใกล้พุทธคยา เมื่ออายุย่างเข้าสู่วัยสาวนางได้ทำพิธีบวงสรวง ต่อเทพยดาที่สิงสถิต ณ ต้นไทรใหญ่ต้นหนึ่งใกล้บ้านของนางโดยได้ตั้งปณิธานความปรารถนาไว้ 2 ประการ คือ
1.ขอให้ได้สามีที่มีบุญ มีทรัพยสมบัติ และชาติสกุลเสมอกัน
2.ขอให้มีบุตรคนแรกเป็นชาย

ถวายข้าวมธุปายาส

ขณะนั้นพระโคตมโพธิสัตว์เลิก อัตตกิลมถานุโยค หันมาเสวยพระกระยาหาร หวังจะบำเพ็ญเพียรทางจิต ประทับนั่งพักผ่อนที่ใต้ต้นไทรนั้น ผินพระพักตร์ ทอดพระเนตรไปทางทิศตะวันออก มีพระรัศมีแผ่ซ่านออกจากพระวรกายเป็น ปริมณฑลดูงามยิ่งนัก นางทาสีสาวใช้เห็นแล้วก็ตระหนักแน่ในจิตคิดว่า คงเป็นเทวดาเจ้า มานั่งคอยท่ารับเครื่องพลีกรรม จึงมิได้เข้าไปทำความสะอาดดังที่ตั้งใจมา รีบกลับไปแจ้งแก่นางสุชาดาโดยด่วน
ฝ่ายนางสุชาดาจึงรีบแต่งกายด้วยเครื่องอาภรณ์อันงดงาม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยกถาดข้าวมธุปายาสขึ้นทูล ศีรษะ ออกจากบ้านพร้อมด้วยบริวารไปยังต้นไทรนั้น ครั้นได้เห็นพระโพธิสัตว์งดงามเช่นนั้น ก็เกิดโสมนัสยินดี สำคัญว่าเป็นรุกขเทวดา มานั่งคอยรับเครื่องพลีกรรม จึงน้อมนำเข้าไปถวายพร้อมทั้งถาดทองคำ

สุชาดา (ธิดาของเสนานีกุฎุมพี)