รูปภาพสวยๆพุทธประวัติชุด ก่อนออกผนวช ตอน ในวังหลวง
ผมตั้งชื่อตอนเองครับ มาดูว่าก่อนที่จะออกผนวชเป็นพระพุทธเจ้านั้น..ท่านได้พบเจอ..อะไรบ้าง ..ซึ่งทำให้พระองค์เกิดอาการ ..เบื่อ..เซ็ง..แค่นี้เองเหรอ..ชีวิต หรือ สังขารา..ข้าพเจ้าต้องการหลุดพ้น!(ตะโกนในใจ) ..ที่เห็นในวังนี้ ..มันไม่ใช่..มันไม่ถืกต้อง ..มันบ่แม่น.. (เติมเอาทั้งนั้น) ..เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาอันมีค่าของท่าน ..เชิญทัศนะครับ..##คำเตือน..ห้ามดูต่ำกว่าวันละ 1 รอบ และห้ามเด็กอายุไม่เกิน 1 ขวบดูตามลำพัง ..ด้วยความปรารถนาดีจาก “ลูกใต้ใบ แก้ไข้ แก้ตัวร้อน” .. “อสิตดาบส” หรือบางแห่งเรียก”กาฬเทวิฬดาบส” พอท่านได้เห็นเจ้าชายสิทธัตถะ ก็ทำกริยาผิดวิสัยสมณะ ๓ อย่าง คือ ยิ้มหรือแย้ม หรือที่ภาษากวีในหนังสือปฐมสมโพธิเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า หัวเราะแล้วร้องไห้ แล้วกราบแทบพระบาทของเจ้าชายสิทธัตถะ เจ้าชายสิทธัตถะประทับนั่งสมาธิอยู่ใต้ต้นหว้า ก็เพราะพระราชบิดาทรงจัดให้มีพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เจ้าชายได้รับความวิ้วกก็เกิดสมาธิขั้นแรกที่เรียกว่า “ปฐมฌาน” พิธีแรกนาเสร็จตอนบ่าย พี่เลี้ยงวิ่งมาหาเจ้าชายได้เห็นเงาไม้ยังอยู่ที่เดิมเหมือนเวลาเที่ยงวันก็เกิดอัศจรรย์ใจ จึงไปกราบทูลพระเจ้าสุทโธทนะ พระราชบิดาเสด็จมาทอดพระเนตรก็เกิดอัศจรรย์ในพระทัย และได้ถวายอัญชลีเป็นครั้งที่สอง ธนูที่เจ้าชายสิทธัตถะยิงมีชื่อว่า “สหัสถามธนู” แปลว่าธนูที่มีน้ำหนักขนาดที่คนจำนวนหนึ่งพันคนจึงจะยกขึ้นได้ แต่เจ้าชายสามารถยกธนูนั้นขึ้นได้ดั่งสตรียกขึ้นซึ่งไม้กงดีดฝ้าย บรรดาพระญาติทั้งปวงได้เห็นแล้วต่างชื่นชมยินดียิ่งนักแล้วเจ้าชายลองดีดสายธนูก่อนยิง เสียงธนูดังกระหึ่มครึ้มครางไปทั้งกรุงกบิลพัสดุ์ เป้าที่เจ้าชายยิงธนูวันนั้น คือ ขนหางทรายจามรีที่วางไว้ในระยะหนึ่งโยชน์ ปรากฎว่าเจ้าชายยิงถูกขาดตรงกลางพอดี พระญาติทั้งปวง จึงยอมถวายพระราชธิดา ซึ่งมีพระนางพิมพายโสธรารวมอยู่ด้วย เพื่อคัดเลือกพระชายา พระญาติวงศ์ทั้งสองฝ่ายทรงเห้นพร้อมกันว่า พระนางพิมพายโสธราทรงพร้อมด้วยคุณสมบัติทุกอย่าง สมควรจะอภิเษกสมรสกับเจ้าชายสิทธัตถะ พระราชพิธีอภิเษกสมรสจึงได้มีขึ้นในสมัยที่เจ้าชายและเจ้าหญิงทรงมีพระชนมายุได้ ๑๖ ปีพอดี พอพระชนมายุมากขึ้นจนถึง ๒๙ ปีก็ทรงเกิดความเบื่อหน่าย ต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความรู้สึกในพระทัยเช่นนั้น อยู่ที่ทรงเห็นสิ่งที่เรียกว่า เทวทูตทั้ง ๔ ระหว่างทางในวันเสด็จประพาสพระราชอุทยานนอกเมืองด้วยรถม้าพระที่นั่ง พร้อมด้วยนายฉันนะ เทวทูตทั้ง ๔ คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และนักบวช gclub slot เจ้าชายสิทธัตถะทรงตัดสินพระทัยแน่วแน่แล้วว่าจะเสด็จออกบวช เสด็จไปยังห้องพระบรรทมของพระนางพิมพายโสธรา เมื่อเสด็จไปถึง ทรงเผยบานพระทวารออก ทรงเห็นพระชายากำลังหลับสนิท พระนางทรงทอดพระกรไว้เหนือเศียรพระราหุล โอรสผู้เพิ่งประสูติ พระองค์ทรงเกิดความเสน่หาอาลัยในพระชายา และพระโอรสที่เพิ่งได้ทอดพระเนตรเห็นเป็นครั้งแรกอย่างหนัก gclub slotเจ้าชายสิทธัตถะทรงพาม้าและมหาดเล็กข้ามแม่น้ำ อโนมานที แล้วเสด็จลงจากหลังม้าประทับนั่งบนหาดทราย อันขาวดุจแผ่นเงิน พระหัตถ์ขวาจับพระขรรค์แสงดาบ พระหัตถ์ซ้ายจับพระจุฬา คือยอดยอดหรือปลายพระเกศา กับพระโมฬี คือมุ่นพระเกศา หรือผมที่เป็นมุ่นมวย แล้วทรงตัดด้วยพระขรรค์แสงดาบ เหลือพระเกศาไว้ยาวประมาณ ๒ นิ้ว เป็นวงเวียนไปทางขวา ทรงมอบพระภูษาทรง และม้าพระที่นั่งให้นายฉันนะนำกลับไปกราบทูลแจ้งข่าวแก่พระราชบิดาให้ทรงทราบ gclub slot