มหาทานติณบาล

June 30, 2019 shantideva 0

เมื่อครั้งพุทธกาล มีชายยากไร้ผู้หนึ่งนามว่า ติณบาล เป็นคนยากจน อาสาเป็นลูกจ้างทำสวนหญ้าให้เศรษฐี ทำหน้าที่ตัดหญ้าบริเวณบ้าน อยู่มาวันหนึ่งเขาคิดว่าเรานี้เป็นคนยากจนเพราะไม่เคยทำบุญอันใดไว้ในชาติก่อนเลย เกิดมาชาตินี้จึงเป็นคนรับใช้ ไร้ญาติขาดมิตร ไม่มีสมบัติอะไรติดตัวแม้แต่น้อย เมื่อเขาคิดดังนี้แล้วเขาจึงได้แบ่งอาหารที่ได้รับจากการรับจ้างแต่ละเดือนออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเอาไว้ถวายแก่พระสงฆ์ที่บิณฑบาต อีกส่วนหนึ่งเก็บเอาไว้บริโภคเอง  shantideva.net อยู่ต่อมาพอถึงเทศกาลออกพรรษา เราชนผู้มีศรัทธาต่างพากันทำบุญทอดกฐินเป็นการใหญ่ แม้แต่เศรษฐีผู้เป็นนายเขาก็เตรียมการจะทอดกฐินเช่นกัน จึงได้ประกาศให้สาธารณชนทราบทั่วไป เมื่อนายติณบาลได้ยินการประกาศ ก็เกิดความเลื่อมใสขึ้นในใจทันที คิดในใจว่ากฐินนี้แหละจะเป็นทานอันประเสริฐ จึงเข้าไปพูดกับเศรษฐีผู้เป็นนายว่า อยากจะร่วมอนุโมทนากฐินทานครั้งนี้ด้วย แต่ตัวเองไม่มีเงินติดตัวเลยจึงคิดอยู่นาน ในที่สุดเขาได้เปลื้องถอดผ้านุ่งของตนออกทำความสะอาดแล้วพับอย่างดี แล้วนำเอาใบไม้มาเย็บนุ่งแทนผ้า แล้วนำผ้าของตนเองนั้นเที่ยวเร่ขายไปตามร้านตลาด หมู่ชนเห็นเขานุ่งใบไม้ก็พากันหัวเราะต่างๆนานา นายติณบาลจึงชูมือขึ้นกล่าวว่า “พวกท่านทั้งหลายจงหยุดก่อน อย่าหัวเราะข้าพเจ้าเลย ข้าพเจ้ายากจนไม่มีผ้าจะนุ่ม จะขอลงใบไม้แต่ในชาตินี้เท่านั้น ชาติหน้าข้าพเจ้าจะนุ่งผ้าอันเป็นทิพย์” เขาขายผ้าได้ 5 มาสก แล้วนำเงินดังกล่าวมาร่วมอนุโมทนาทอดกฐินกับเศรษฐีผู้เป็นนาย ขณะนั้นได้เกิดการโกลาหลทั่วไปในหมู่ชน ตลอดจนถึงเทวดาบนสวรรค์ ไม่ช้าไม่นานนายติณบาลมีฐานะร่ำรวยอย่างไม่มีใครคาดคิด บั้นปลายชีวิตของเขาได้รับตำแหน่งเศรษฐี เมื่อสิ้นอายุขัยได้ไปบังเกิดเป็นเทพบุตรในชั้นดาวดึงส์ เสวยสมบัติทิพย์อยู่ในวิมานแก้วสูงได้ 5 โยชน์ มีนางอัปสร 1,000 แวดล้อมเป็นบริวาร การสร้างบุญของนายติณบาลนั้นถือว่าเป็นการทำบุญด้วยความเลื่อมใสมาก ถึงทรัพย์จะน้อยแต่ก็ได้บุญมาก starvegas-slot.com

Hanuman

June 29, 2019 shantideva 0

หนุมาน (Hanuman) เป็นตัวละครเอกตัวหนึ่งในเรื่องรามเกียรติ์ เป็นลิงเผือก จึงมีสีขาวเป็นสีประจำกาย เมื่อสำแดงฤทธิ์จะมี 4 หน้า 8 มือ หาวเป็นดาวเป็นเดือน นอกจากนี้ ยังมีลักษณะประจำกายอื่น ๆ อีก เช่น สวมกุณฑล มีขนเพชร มีเขี้ยวเป็นแก้ว และ หาวเป็นดาวเป็นเดือน ดังกลอนตอนที่หนุมานเกิดว่า  shantideva.net ลอยอยู่ตรงพักตร์ชนนี รัศมีโชติช่วงในเวหา มีกุณฑลขนเพชรอลงการ์ เขี้ยวแก้วแววฟ้ามาลัย หาวเป็นดาวเดือนระวีวร แปดกรสี่หน้าสูงใหญ่ สำแดงแผลงฤทธิ์เกรียงไกร แล้วลงมาไหว้พระมารดร หนุมาน เป็นลิงที่มีฤทธิ์มาก สามารถสำแดงเดชต่าง ๆ ได้หลายประการ เช่น การขยายร่างกายให้ใหญ่โต การยืดหางให้ยาว เป็นต้น นอกจากนี้ หนุมานยังได้ชื่อว่าเป็นอมตะ คือ ไม่มีวันตาย เนื่องจากเป็นบุตรของพระพาย (ลม) กับนางสวาหะ ด้วยเหตุนี้ เมื่อหนุมานมีอันตรายถึงตายแล้ว เพียงแค่มีลมพัดมา หนุมานก็จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ ด้วยอำนาจของพระพายผู้เป็นบิดา  starvegas-slot.com

พระโพธิสัตว์ หัวใจของโพธิสัตว์ ที่สุดของความเสียสละ

June 28, 2019 shantideva 0

บทบารมี 30 ทัศ คือ คุณสมบัติของ พระโพธิสัตว์ ตามคติเถรวาทซึ่งรุ่งเรืองอยู่ในประเทศไทย ลาว กัมพูชา พม่า ศรีลังการวมทั้งบังกลาเทศ และตอนนี้ก็ถูกรื้อฟื้นคืนกลับมาใหม่ในประเทศอินเดีย shantideva.net ประเทศในแถบที่เราเรียกกันว่าสุวรรณภูมิหรืออินโดจีน เป็นประเทศที่โอบกอดเอาพระพุทธศาสนาไว้หลังจากที่สูญหายไปจากผืนแผ่นดินมาตุภูมิ คือประเทศอินเดีย พระพุทธศาสนาที่รุ่งเรืองอยู่ในแถบเอเชียอาคเนย์ รวมทั้งประเทศไทยเรานี้ เป็นพระพุทธศาสนาสายเถรวาท และในคติแบบเถรวาท ผู้ที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะต้องผ่านการบำเพ็ญบารมี ซึ่งช่วงที่บำเพ็ญบารมีนั้นเราเรียกว่าเป็นพระโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์ แปลว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการตรัสรู้ ผู้ที่ตั้งปณิธานว่าจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในวันหนึ่งข้างหน้า และทันทีที่ตั้งปณิธานและได้รับพุทธพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง จากนั้นเป็นต้นไปจนกระทั่งถึงนาทีก่อนตรัสรู้ เราเรียกท่านว่า “พระโพธิสัตว์” เมื่อเป็นพระโพธิสัตว์ก็จะต้องมีจรรยาของพระโพธิสัตว์ อะไรคือจรรยาของพระโพธิสัตว์ คำตอบก็คือบารมี 10 ทัศนั่นเอง บารมี 10 ทัศหรือบารมี 10 ประการนั้น แต่ละประการจะต้องบำเพ็ญ 3 ระดับ คือระดับต้น ระดับกลาง และระดับสูงสุด เช่น ทานบารมี ทานอุปบารมี ทานปรมัตถบารมี ทานบารมีหรือบารมีขั้นต้น เช่น ให้ข้าวให้ของ ให้เงินให้ทอง ให้เสื้อผ้า ให้ข้าวปลาอาหาร ทานอุปบารมี เช่น ให้อวัยวะ บริจาคดวงตา บริจาคเลือด บริจาคไตอุทิศร่างกายหลังจากตัวเองล่วงลับดับขันธ์ ทานปรมัตถบารมีเป็นบารมีขั้นอุกฤษฏ์หรือขั้นสูงสุด เช่น ให้ชีวิตเป็นทาน ได้แก่การยกชีวิตตัวเองให้เป็นทานเพื่อความอยู่รอดของคนอื่น ซึ่งทำได้ยากมาก เพราะต้องวางชีวิตของตัวเองเป็นเดิมพัน ฉะนั้น ในทุกภพทุกชาติที่พระโพธิสัตว์เสวยชาตินั้น ท่านก็จะบำเพ็ญบารมีเหล่านี้จึงได้เห็นบางภพบางชาติที่ท่านอุทิศชีวิตของตัวเองเพื่อให้ผู้ที่ยังเหลือมีชีวิตรอด อาตมภาพขออธิบายเรื่องพระโพธิสัตว์ผ่านนิทานเรื่องหนึ่ง ดังนี้ พระชาติหนึ่งได้เสวยพระชาติเป็นพญาวานร ณ ที่แห่งนี้มีต้นมะม่วงอยู่ต้นหนึ่งในปีหนึ่งมะม่วงจะสุกหนึ่งครั้ง พญาวานรก็พาหมู่คณะขึ้นไปเด็ดมากิน อยู่มาวันหนึ่ง มะม่วงผลหนึ่งหลุดตกลงไปในลำธาร ไหลละล่องท่องน้ำไปจนถึงปลายน้ำ พระราชาสรงสนานอยู่กับข้าราชบริพาร ทรงพบเห็นมะม่วงจึงหยิบมาเสวยทันทีที่พระชิวหากระทบรสชาติของมะม่วงก็ถึงกับทรงรำพึงออกมาว่า “ทำไมช่างโอชารสถึงเพียงนี้” จึงมีรับสั่งให้เสนาอำมาตย์ข้าราชบริพารส่งจารบุรุษตามน้ำขึ้นไปจนถึงถิ่นของพญาวานร เมื่อเจอแล้วทรงยกกองทัพยาตราขึ้นไป เพื่อจะไปดูว่าต้มะม่วงที่มีผลแสนโอชารสนั้นอยู่ตรงไหน เมื่อขึ้นไปถึง เหล่าวานรพากันแตกตื่นตกใจหนีไม่ทัน กองทัพของพระราชาแวดล้อมต้นมะม่วงไว้ เหล่านายทหารง้างคันศรปล่อยลูกธนูหลุดจากแล่งพุ่งไปทิ่มแทงวานรตายไปกว่าครึ่ง พระโพธิสัตว์ในพระชาตินั้นตัดสินใจบำเพ็ญปรมัตถบารมีให้ชีวิตเป็นทานเห็นว่าถ้าปล่อยให้หนีกันตามสัญชาตญาณคงจะตายกันทั้งหมดเป็นแน่ พระโพธิสัตว์จึงทรงตัดสินใจใช้พละกำลังของตัวเองกระโดดข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง เพื่อจะขึงเถาวัลย์กับคาคบไม้ของฝั่งนั้น แต่ปรากฏว่าเถาวัลย์สั้นขึงไม่ถึง เหลืออีกประมาณสักหนึ่งช่วงตัวตีว่าหนึ่งวา พญาวานรก็เลยเอาตัวเองทำเป็นเชือกหนึ่งช่วงตัวนั้น โดยใช้ขาข้างหนึ่งเกาะกิ่งไม้ฝั่งโน้นไว้ และใช้มืออีกสองข้างขึงเชือกดึงจนตึงจนสุดศักยภาพของเชือกเส้นนั้น แล้วก็ร้องเรียกให้บริษัทบริวารห้อยโหนผ่านเส้นเชือกนั้นข้ามแม่น้ำจากฟากหนึ่งไปยังอีกฟากหนึ่ง ทรงอุทิศตนด้วยการวางชีวิตเป็นเดิมพัน ให้บริษัทบริวารเหยียบตัวเองแทนเส้นเชือก ระหว่างนั้นพระราชาทรงทอดพระเนตรเห็นความเสียสละของพระโพธิสัตว์ เกิดธรรมสังเวชอันใหญ่หลวงว่า “เราเป็นถึงพระราชาก็ยังไม่มีภาวะผู้นำถึงขนาดนี้ ดูพญาวานรตัวนี้สิ ยังมีภาวะผู้นำสูงกว่าเราซึ่งเป็นพระราชามหากษัตริย์เสียอีก” พระราชาทรงสลดพระทัยเหลือประมาณ จึงมีรับสั่งให้ข้าราชบริพารหยุด ประหัตประหารพญาวานร และนี่ก็คือพระชาติหนึ่งที่พระโพธิสัตว์อุทิศชีวิตเป็นทานเรียกว่า บำเพ็ญปรมัตถบารมี ฉะนั้น ที่เรามาสวดมนต์กันทุกเช้าทุกเย็นนี้ ถ้าเราทำความเข้าใจให้ดีและปฏิบัติให้เป็น เราทุกคนก็กำลังเดินอยู่บนหนทางของพระโพธิสัตว์แล้ว ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติบารมีครบทั้ง 10 ประการก็ได้ ปฏิบัติเพียงทานข้อเดียว ก็ทำให้ได้รับอานิสงส์กว้างไกลไพศาล ทานในเบื้องต้นเป็นการกำจัดความตระหนี่ ในเบื้องกลางจะช่วยยกระดับคุณภาพจิต และในเบื้องสูงทำให้เราลอยพ้นจากการเห็นแก่ตัว การให้โดยไม่มีอัตตาของตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องในทุกมิตินับเป็นทานบารมีขั้นสูง เพราะเป็นการให้โดยไม่หวังว่าจะได้รับอะไรตอบแทน ดังหนึ่งต้นจันทน์หรือไม้จันทน์หอมนั่นเอง ไม้จันทน์หอมเป็นไม้มงคล ปราชญ์ท่านหนึ่งเขียนว่า อันธรรมดาของไม้จันทน์-หอมนั้น เมื่อยังยืนต้นเป็นไม้ใหญ่ไพรระหงก็ให้ร่มให้เงาแก่มนุษย์และนกหนูหูปีกที่ได้บินมาพึ่งพาอาศัย ครั้นใครคนใดคนหนึ่งที่ได้มาพึ่งพาร่มเงานั้นเกิดอึดอัดขัดเคืองมีความโกรธต่อต้นจันทน์ ยกขวานขึ้นมาจามสองสามฉับ แล้วแบกขวานหนีไปแทนที่ต้นจันทน์จะโกรธเคือง ก็ยังอุตส่าห์ ให้กลิ่นหอมติดขวานไปอีก…นี่ละคือจรรยาของพระโพธิสัตว์ นักปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาท่านหนึ่งนิยามจรรยาของพระโพธิสัตว์เอาไว้ง่าย ๆ ว่าอัชฌาศัยที่ทนไม่ได้เพราะกรุณาคือลักษณะของมหาบุรุษ ใครก็ตามที่เห็นคนอื่นตกทุกข์ได้ยากแล้วอดรนทนไม่ได้ ต้องลุขึ้นมาหาทางช่วยเหลือเกื้อกูลโดยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่ง คนคนนั้นเราเรียกว่ามีอัชฌาศัย ของมหาบุรุษ มหาบุรุษก็คือคนที่เป็นมหาษัทก็คือผู้ที่เป็นพระโพธิสัตว์ เราทุกคนสามารถเป็นพระโพธิสัตว์ได้ในชีวิตนี้ ขอเพียงเรามีจิตวิญญาณของการเป็นพระโพธิสัตว์ นั่นคือ เห็นคนอื่นตกทุกข์ได้ยากแล้วอดรนทนไม่ได้ ต้องลุกขึ้นมาช่วยเหลือตามแต่ศักยภาพของตัวเองจะทำได้ ที่เรามาสวดมนต์กันทุกเช้าทุกเย็นนี้ถ้าเราทำความเข้าใจให้ดีและปฏิบัติให้เป็นเราทุกคนก็กำลังเดินอยู่บนหนทางของพระโพธิสัตว์แล้ว starvegas-slot.com

พุทธพยาการณ์เกี่ยวกับพระศรีอาริย์

June 27, 2019 shantideva 0

ความจริงพระศรีอาริย์เคยเกิดมาบนโลกมนุษย์แล้วครั้งหนึ่ง ในสมัยพระพุทธเจ้าปัจจุบัน และเคยเป็นบวชเป็นสาวกของพระพุทธเจ้าด้วย ครั้ง ที่พระพุทธเจ้าเสด็จกรุงกบิลพัสดิ์ พระนางปชาบดีโคตมี (พูดง่ายๆ คือแม่ใหม่ของพระพุทธเจ้า กล่าวคือ ตอนพระพุทธเจ้าประสูติ ได้ 7 วัน พระนางสิริมหามายา มารดาก็สิ้นพระชนม์ พระเจ้าสุทโธทนะ(พ่อพระพุทธเจ้า) จึงอภิเษกพระนางปชาบดีโคตมีเป็นชายา เป็นแม่นมเลี้ยงเจ้าชายสิทธัตถะมาตั้งแต่เด็ก) shantideva.net พระ นางปชาบดีโคตมิตั้งใจนำผ้าสาฎก (ผ้าสำหรับห่มเวลาออกนอกบ้าน) ที่ทออย่างประณีตใส่ผอบแก้วถวายพระพุทธเจ้า แต่พระพุทธเจ้าไม่รับ โดยตรัสให้ไปถวายคณะสงฆ์จะได้กุศลมากกว่า นางจึงถวายแด่พระที่อยู่ใกล้ชิดพระพุทธเจ้า คือพระสารีบุตร (มือขวาพระพุทธเจ้า) พระสารีบุตรก็ไม่รับ ขยับไปหาพระโมคคัลลานะ (มือซ้ายพระพุทธเจ้า) ท่านก็ไม่รับ ถวายไปเรื่อยๆ ก็ไม่มีใครรับ จนถึงพระภิกษุใหม่นามว่า อชิตะ ที่นั่งอยู่ท้ายสุด พระอชิตะก็รับผ้านั้นทันที พระ นางปชาบดีเห็นเช่นนั้น ก็เกิดโทมนัส เสียพระทัย พระพุทธเจ้าทราบเช่นนั้น จึงหาวิธีที่จะช่วยให้นางคลายโทมนัส ด้วยการบอกให้พระอานนท์ไปนำบาตรของพระองค์มา แล้วยื่นพระหัตถ์ให้บาตรนั้นลอยขึ้นไปบนฟ้า และบอกกับสาวกทั้งหมดว่า ให้ไปนำเอาบาตรนั้นมา พระสารีบุตรก็เหาะเหินไปในอากาศด้วยอิทธิฤทธิ์ แต่ก็ไม่พบ พระโมคคัลลานะได้ชื่อว่ามีฤทธิ์มากที่สุด เหาะตามหาก็ไม่พบ ไม่มีสาวกองค์ใดหาบาตรนั้นได้ จนพระพุทธเจ้าตรัสสั่งให้พระอชิตะให้แสดงความสามารถไปนำเอาบาตรทรงของตถาคตมา พระ อชิตะซึ่งบวชใหม่ กล่าวว่า แม้พระสาวกทั้งหลายยังไม่สามารถนำบาตรมาได้ แล้วพระใหม่ที่ยังไม่ได้บรรลุแม้โสดาบัน ไม่มีอิทธิฤทธิ์อันเกิดจากอภิญญาฌานสมาบัติจะมีปัญญานำบาตรมาถวายได้อย่างไร แต่ เมื่อพระอชิตะตั้งจิตอธิฐานว่า ตนเองก็พยายามรักษาศีล ประพฤติพรหมจรรย์มิให้ด่างพร้อย ด้วยเดชบุญแห่งความดีนี้ ขอบาตรจงมาประดิษฐานในหัถต์ในบัดนี้ด้วย ทันใดนั้น บาตรก็ตกลงมาใสหัตถ์ของพระอชิตะ พระพุทธเจ้าตรัสเป็นพุทธพยากรณ์ว่า พระอชิตะภิกษุ จะได้ตรัสรู้เป็นพระศรีอริยเมตไตรย์ในอนาคตกาลภายในภัทรกัปนี้ พระนางปชาบดีโคตมะได้เห็นเช่นนั้น ก็ทรงหายโทมนัส starvegas-slot.com (* พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน เมื่อครั้งทรงเสวยพระชาติเป็นสุเมธดาบส ก็ได้รับพุทธพยากรณ์ว่าจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าโดยพระทีปังกรพุทธเจ้า)

ประวัติวันวิสาขบูชา

June 26, 2019 shantideva 0

วันวิสาขบูชา 2562 นี้ตร งกับวันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ.2562 ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วันนี้เราจึงนำข้อมูล ที่ดีๆ ทำบุญ สวดมนต์ รวมไปถึงประวัติวันวิสาขบูชามาฝากกันครับ shantideva.net วันวิสาขบูชา หมายถึง การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ คือวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ (ถ้าเป็นปีที่มีอธิกมาส ก็เลื่อนออกไปเป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗) ในวันนี้ได้มีเหตุการณ์ที่สำคัญเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า ๓ ประการ คือ เป็นวันคล้ายวันประสูติ, ตรัสรู้ และปรินิพาน ในวันเดียวกันของพระพุทธเจ้า ความสำคัญของ “วันวิสาขบูชา” วันวิสาขบูชาได้รับการยกย่องจากพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ให้เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาสากล เนื่องจากเป็นวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญ 3 เหตุการณ์ ที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธเจ้า ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของศาสนาพุทธ ด้วยเหตุตามที่กล่าวมา วันวิสาขบูชา จึงถือว่าเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเมื่อถึงวันเช่นนี้ พุทธศาสนิกชนถ้วนหน้าทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิตผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใส จึงพร้อมใจกันน้อมรำลึกถึงพระพุทธเจ้า ประกบอพิธีบูชาด้วยอามิสบูชา และปฏิบัติบูชาด้วยความเคารพเป็นอย่างยิ่ง การบูชาอันเนื่องด้วยวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ดังกล่าวมาก็ควรที่จะกล่าวประวัติไว้เพื่อเป็นการเจริญศรัทธา ความเชื่อและปสาทะความเลื่อมใสต่อไป กิจกรรมที่ชาวพุทธศาสนิกชนควรปฏิบัติในวันวิสาขบูชา ในวันวิสาขบูชานี้ ถือเป็นวันสำคัญของชาวพุทธทั่วโลก ส่วนใหญ่จึงจะมารวมตัวกันเพื่อจัดพิธีบุญใหญ่ หรือกิจกรรมต่างๆ เพื่อบำเพ็ญกุศลและรำลึกถึงพระพุทธเจ้า เช่น ทำบุญตักบาตร ถือศีล ฟังธรรม ปล่อยนก ปล่อยปลา และนิยมเวียนเทียนรอบอุโบสถ์ในตอนค่ำ เพื่อเป็นการถวายพุทธบูชาอีกด้วย  starvegas-slot.com

คัมภีร์วิสุทธิมรรค

June 25, 2019 shantideva 0

คัมภีร์วิสุทธิมรรค รจนาโดยพระพุทธโฆสาจารย์ นักปราชญ์ชาวอินเดีย เมือ พ.ศ. ๙๕๖ เป็นภาษาบาลี สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถระ) วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร แปลและเรียบเรียงเป็นภาษาไทย ซึงเป็นคัมภีร์ที่ถือได้ว่าสรุปความย่อจากพระไตรปิฎก โดยสรุปความพระวินัยปิฎก ๒๑,ooo พระธรรมขันธ์ เป็นศีล พระสุตตันตปิฎก ๒๑,ooo พระธรรมขันธ์ เป็นสมาธิ และพระอภิธรรมปิฎก ๔๒,ooo พระธรรมขันธ์ เป็นปัญญา รวมเป็นพระไตรปิฎก ๘๔,ooo พระธรรมขันธ์ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา คำว่า วิสุทธิ คือ พระนิพพานอันเป็นจุดหมายปลายทางของพระพุทธศาสนา หมายถึง เป็นสภาพที่บริสุทธิ์ หมดจดจากกิเลสมลทินโดยสิ้นเชิง คำว่า มรรค คือหนทาง หมายถึง อุบายเป็นเครื่องส่งให้ถึง ฉะนั้น วิสุทธิมรรค ก็คือทางสู่พระนิพพาน หรือ อุบายเป็นเครื่องส่งให้ถึงพระนิพพาน หรือแผนที่เดินทางสู่พระนิพพาน gclub slot

ประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ

June 24, 2019 shantideva 0

ช่วงวันออกพรรษาในแต่ละจังหวัด แต่ละท้องที่ ก็จัดงานต่างๆ ให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมท้องถิ่นของแต่ละจังหวัดประเพณีที่สำคัญและมักจัดกันทุกๆ จังหวัด คือ ประเพณีตักบาตรเทโวโรหนะ คำว่า ‘’เทโวโรหณะ’’ แปลว่า การหยั่งลงจากเทวโลก การตักบาตรเทโวโรหณะ จะทำกันในบริเวณพระอุโบสถ มีการอัญเชิญพระพุทธรูป เป็นผู้นำแถวของพระภิกษุ ในการออกบิณฑบาต ของที่ตักบาตรก็มีต่างๆกันไปในแต่ละจังหวัด เช่น ที่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ และ ที่วัดเขานางบวช อำเภอเมืองจังหวัดนครนายก จะถวายบัวให้กับพระพุทธรูป และที่ที่จังหวัดอุทัยธานี นิยมใช้ข้าวต้มมัด หรือ เรียกว่า ข้าวต้มลูกโยน โดยจะเอาข้าวเหนียวผัดมาห่อใบมะพร้าว ไว้หาง ใส่บาตรถวาย พระภิกษุสงฆ์การที่ต้องอัญเชิญพระพุทธรูปมาเป็นผู้นำขบวนแถวของพระสงฆ์ ในการออกบิณฑบาต เทโวโรหนะ ถือได้ว่า เป็นการปฏิบัติเพื่อรำลึกถึงวันสำคัญ ของวันออกพรรษาอีกวันหนึ่งเลยทีเดียว  shantideva.net พิธีตักบาตรเทโวโรหณะกระทำหลังจากพระสัมมาสัมพุทธเ้จาเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มหาชนเฝ้ารอคอยการเสด็จกลับมาของพระพุทธองค์จึงได้เกิดประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะขึ้นมา พิธีตักบาตรเทโวโรหณะเมื่อครั้งพุทธกาล ในพรรษาที่ 7 นับจากปีที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ พระพุทธองค์ได้เสด็จขึ้นไปจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เทศนาพระอภิธรรมปิฎกโปรดพระพุทธมารดาอยู่หนึ่งพรรษา ครั้นถึงวันปวารณาออกพรรษา วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 พระพุทธองค์จึงเสด็จลงสู่โลกมนุษย์ทางบันไดแก้วมณี ทรงเปล่งพระฉัพพรรณรังสีสว่างไสวเรืองรองไปทั่วทั้งโลกธาตุ แล้วเกิดสิ่งอัศจรรย์ขึ้น คือ ท่านเปิดโลกทั้งสาม ให้เห็นถึงกันในเวลาเดียวกัน คือ สวรรค์ มนุษย์ นรก เห็นกันหมดทั้งเทวดา มนุษย์ สัตว์นรก สัตว์เดียรัจฉาน เปรต อสุรกาย ต่างเห็นกันและกันด้วยตาเนื้อ เป็นอัศจรรย์ด้วยพุทธานุภาพ เมื่อเห็นความอัศจรรย์นั้นต่างเกิดมหาปีติ พากันตั้งความปรารถนาที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาลภายภาคเบื้องหน้า เพราะเห็นพุทธานุภาพนั้น แม้แต่มดซึ่งเป็นสัตว์เดียรัจฉานยังมีความรู้สึกนึกคิดที่จะปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าด้วย วันนั้นจึงเรียกว่า “วันพระพุทธเจ้าเปิดโลก” ตักบาตรเทโวโรหณะ หมายถึง วันทำบุญตักบาตรในเทศกาลวันออกพรรษาตามความเชื่อของพุทธศาสนิกชนว่าเป็นวันที่เสด็จลงจากสวรรค์ชั้น ดาวดึงส์หลังจากเทศนาอภิธรรมปิฎกโปรดพุทธมารดา การที่พระพุทธเจ้าเสด็จ ขึ้นไปจำพรรษาอยู่เพียงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ก็เนื่องจากมีพระประสงค์จะให้พระพุทธมารดาได้บรรลุโลกุตรธรรมอันเป็นธรรม ชั้นสูงสุดในพระพุทธศาสนาได้ ประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงจากเทวโลกในวันมหาปวารณา “เทโว” ย่อมาจากคำว่า “เทโวโรหณะ” ซึ่งแปลว่า การหยั่งลงจากเทวโลก หมายถึง เมื่อพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิณาณ แล้วทรงเทศนาโปรดประชาชนในแคว้นต่างๆ ของอินเดียตอนเหนือ ตั้งแต่เมืองราชคฤห์ เมืองพาราณสี เมืองสาวัตถี ตลอดถึงเมืองกบิลพัสดุ์ ซึ่งเป็นบิตุภูมิของพระองค์ทรงเทศนาโปรดพระประยูรญาติทั้งหลายถ้วนหน้า แล้วทรงปรารถนาจะสนองคุณพระมารดา ซึ่งหลังจากประสูติพระองค์ได้ 7 วัน ก็สิ้นพระชนม์ และได้ไปเกิดเป็นเทพบุตรอยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิต ฉะนั้นในพรรษาที่ 7 หลังจากตรัสรู้พระพุทธองค์จึงเสด็จขึ้นไปจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เทศนาพระอภิธรรมปิฎกโปรดพุทธมารดาอยู่พรรษาหนึ่ง ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 จึงเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มาประทับที่เมืองสังกัสสะ ประชาชน พากันไปเฝ้าพระพุทธองค์ เพื่อทำบุญตักบาตรอย่างหนาแน่น บางวัดก็ทำในวันออกพรรษา คือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 บางวัดก็ทำในวันรุ่งขึ้น คือ วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ทั้งนี้ แล้วแต่ความตกลงร่วมใจทั้งทางวัดและทางบ้าน  starvegas-slot.com

พระยูไลตั้งอยู่ที่วัดถ้ำเขาเต่า อำเภอหัวหิน

June 23, 2019 shantideva 0

พระยูไล พระพุทธเจ้าของชาวจีน ที่วัดถ้ำเขาเต่า หากจะให้พูดถึงพระยูไล คือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของชาวจีน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์เป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง สมัยโบราณชาวพุทธไม่กล้าที่จะวาดรูปหรือปั้นรูปซึ่งเป็นตัวแทนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า จึงใช้สัญลักษณ์เป็นต้นโพธิ์และมีบัลลังว่างเปล่า เป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า เมื่อศาสนาพุทธแพร่หลายออกไปทั่วโลกจึงเกิดมีการวาดรูปและปั้นรูปแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขึ้นในภายหลัง เพื่อเป็นการเคารพบูชา เพราะฉะนั้นรูปวาดหรือรูปปั้นจึงเป็นไปตามวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น มาวัดถ้ำเขาเต่า แวะชมพระยูไล หากได้เดินทางมาหัวหินแล้ว ท่านไม่ควรพลาดแวะชมวัดถ้ำเขาเต่า ที่เป็นวัดที่สวยงามที่สุดในหัวหิน แวะกราบไหว้สักการะพระยูไล ซึ่งได้มีการจัดสร้างเป็นที่แรก และปัจจุบันมีอายุราวๆ 60 ปี ตั้งแต่จัดสร้างมา โดยองค์พระยุไลนั้นได้ถูกสร้างไว้บนชั้นสองของโรงเจ วัดถ้ำเขาเต่า เป็นห้องโถงขนาดใหญ่ มีคนคอยดูแลและแจกธูปเทียนให้แกผู้ที่ไปไหว้สักการะบูชา โรงเจที่ตั้งอยู่วัดถ้ำเขาเต่า พูดถึงโรงเจ เขาเต่า หรือโรงเจวัดถ้ำเขาเต่า ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของวัดถ้ำเขาเต่า เมื่อท่านเลี้ยวรถเข้าไปท่านจะสามารถพบโรงเจ ได้เป็นสิ่งแรก บริเวณลานด้านหน้าโรงเจ สามารถจอดรถยนต์ส่วนตัวของท่านได้ โรงเจมีขนาดใหญ่ ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม บนชั้นสองยังมีรูปปั้นประติมากรรมพระยูไลให้ท่านได้ขึ้นไปกราบไหว้สักการะขอพรอีกด้วย ใกล้โรงเจนั้นมีสำนักสงฆ์ธรรมสว่าง ซึ่งด้านบนนั้นมีพิพิธภัณฑ์ให้ท่านได้ขึ้นไปแวะชม รอบลานที่จอดรถนั้น คาสิโนออนไลน์

เจ้าแม่กวนอิมและความเชื่อของชาวจีนระดับชาวบ้าน

June 22, 2019 shantideva 0

เจ้าแม่กวนอิม เป็นเทพธิดาที่ได้รับความเคารพนับถือในหมู่ของชาวจีนเป็นอันมาก ทั้งชาวจีนในผืนแผ่นดินใหญ่และชาวจีนโพ้นทะเลทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ shantideva.net ที่เจ้าแม่กวนอิมได้รับความนิยมในหมู่ชาวจีนโดยทั่วไปก็มาจากที่เจ้า แม่กวนอิม มีความรัก ความเมตตาและความกรุณาอย่างปราศจากเงื่อนไขนั่นเอง เจ้าแม่กวนอิมได้รับความนับถือว่าเป็นผู้ปกปักรักษาสตรีและเด็ก ด้วยเหตุนี้จึงมีความเชื่อด้วยว่าท่านเป็นผู้สามารถประทานบุตรให้แก่หญิงที่ต้องการบุตรได้ ในตำนานของจีนโบราณเล่าว่ามีหญิงผู้หนึ่งต้องการจะมีบุตรจึงได้ยืมรองเท้าของเพื่อนบ้านไปบนเจ้าแม่กวนอิมที่ศาลเจ้าของเจ้าแม่แห่งหนึ่ง การณ์ต่อมานางก็ได้บุตรจริงๆ ด้วยเหตุนี้ ในบางครั้งเราก็จะเห็นผู้หญิงที่ต้องการบุตรไปยืมรองเท้าของหญิงเพื่อนบ้านแล้วนำไปบนเจ้าแม่กวนอิม และพอนางตั้งครรภ์และคลอดบุตรแล้ว นางก็จะนำรองเท้าคู่เก่าที่นำไปบนเจ้าแม่กวนอิมคู่นั้นพร้อมกับรองเท้าคู่ใหม่อีก 1 คู่ไปมอบให้แก่เจ้าของรองเท้าเป็นการขอบคุณ เจ้าแม่กวนอิมยังเป็นเคารพนับถือว่าเป็นผู้ปกปักรักษาและคุ้มครองบรรดาผู้ทุกข์ได้ยากและผู้โชคร้ายทั้งหลายได้ด้วย อย่างเช่น ชาวจีนที่ตามฝั่งทะเลมีความเชื่อว่า เจ้าแม่กวนอิม เป็นผู้ปกป้องคุ้มครองชาวประมง กลาสีเรือ ตลอดจนผู้ออกทะเลทั้งหลาย ชาวจีนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่า มาซู เทพธิดาทะเลของของศาสนาเต๋า เป็นองค์อวตารของเจ้าแม่กวนอิม เจ้าแม่กวนอิม ยังมีความเกี่ยวข้องกับตำนานน้ำท่วมโลก (Great Flood) โดยในตำนานกล่าวว่าหลังเกิดน้ำท่วมโลกเจ้าแม่กวนอิมส่งสุนัขตัวหนึ่งมานำเมล็ดข้าวใส่ไว้ที่หาง โดยเหตุนี้เอง เจ้าแม่กวนอิมจึงได้รับการนับถือว่าเป็นเทพธิดาแห่งข้าวดุจเดียวกับที่ชาวไทยให้ความนับถือพระแม่โพสพ ในบางที่บางแห่ง โดยเฉพาะในหมู่นักธุรกิจและในหมู่พ่อค้าแม่ขายชาวจีน จะนับถือเจ้าแม่กวนอิมว่าเป็นเทพธิดาผู้นำโชคมาให้เหมือนแม่นางกวักในหมู่ชาวไทย และเมื่อเร็วๆนี้ ก็มีความเชื่อในหมู่ชาวจีนว่า เจ้าแม่กวนอิมสามารถให้ความปกป้องคุ้มครองแก่ผู้โดยสารเครื่องบินได้ด้วย starvegas-slot.com

ศาสดา

June 21, 2019 shantideva 0

ศาสดาของศาสนาพุทธ คือ พระโคตมพุทธเจ้า มีพระนามเดิมว่า เจ้าชายสิทธัตถะ ประสูติในดินแดนชมพูทวีป ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 80 ปีก่อนพุทธศักราช ณ สวนลุมพินีวัน เจ้าชายสิทธัตถะผู้เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะและพระนางสิริมหามายา ทรงดำรงตำแหน่งรัชทายาท ผู้สืบทอดราชบัลลังก์กรุงกบิลพัสดุ์แห่งแคว้นสักกะ และเมื่อพระชนมายุ 16 พรรษา ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงยโสธราแห่งเมืองเทวทหะ ต่อมาเมื่อพระชนมายุ 29 พรรษา มีพระโอรส 1 พระองค์พระนามว่า ราหุล ในปีเดียวกัน พระองค์ทอดพระเนตรเทวทูตทั้งสี่ คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และสมณะ จึงทรงตัดสินพระทัยออกผนวชเป็นสมณะ เพื่อแสวงหาความหลุดพ้นจากทุกข์ คือ ความแก่ เจ็บ และตาย ในปีเดียวกันนั้น ณ ริมฝั่งแม่น้ำอโนมานที และหลังจากออกผนวชมา 6 พรรษา ทรงประกาศการค้นพบว่าการหลุดพ้นจากทุกข์ทำได้ด้วยการฝึกจิตด้วยการเจริญสติ ประกอบด้วยศีล สมาธิ และปัญญา จนสามารถรู้ทุกสิ่งตามความเป็นจริงว่า เป็นทุกข์เพราะสรรพสิ่งไม่สมบูรณ์ ไม่แน่นอน และบังคับให้เป็นดั่งใจไม่ได้ จนไม่เห็นสิ่งใดควรยึดมั่นถือมั่นหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง จวบจนได้ทรงบรรลุพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ คือ การตรัสรู้ อริยสัจ 4 ขณะมีพระชนมายุได้ 35 พรรษา ที่ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม จากนั้นพระองค์ได้ออกประกาศสิ่งที่พระองค์ตรัสรู้ตลอดพระชนม์ชีพ เป็นเวลากว่า 45 พรรษา ทำให้ศาสนาพุทธดำรงมั่นคงในฐานะศาสนาอันดับหนึ่งอยู่ในชมพูทวีปตอนเหนือ จวบจนพระองค์ได้เสด็จปรินิพพาน เมื่อพระชนมายุได้ 80 พรรษา ณ สาลวโนทยาน gclub slot

ปฏิจจสมุปบาท ฝ่ายสันสกฤต จากคัมภีร์มหาวัสตุอวทาน และ คัมภีร์มัธยมกศาสตร์ของนาคารชุน

June 19, 2019 shantideva 0

พร้อมตัวอักษรเทวนาครี บทปริวรรตอักษรไทย และแปลไทย ในส่วนคัมภีร์มัธยมกศาสตร์ มีเสียงอ่านประกอบด้วย gclub slot ปฏิจจสมุปบาท (บาลี : ปฏิจฺจสมุปฺปาท , สันสกฤต : ปฺรตีตฺยสมุตฺปาท ) เป็นชื่อพระธรรมหัวข้อหนึ่งในพุทธศาสนา ที่สำคัญมาก ๆ ในทุกนิกาย เรียกอีกอย่างว่า อิทัปปัจจยตา หรือ ปัจจยาการ เป็นหลักธรรมที่อธิบายถึงการเกิดขึ้นพร้อมแห่งธรรมทั้งหลายเพราะอาศัยกัน, การที่สิ่งทั้งหลายอาศัยกันจึงเกิดมีขึ้น เช่น ทุกข์เกิดขึ้นเพราะมีปัจจัย 12 เรื่องเกิดขึ้นสืบ ๆ เนื่องกันมาตามลำดับ ปฏิจจสมุปบาท นี้ปรากฎอยู่ในคัมภีร์ทั้งฝ่ายบาลี-สันสกฤต ทั้งฝ่ายสาวกยาน-มหายาน ถูกถ่ายเป็นภาษาจีนและธิเบต มีอรรถาธิบายอยู่มากหลายภาษา วันนี้นำเสนอปฏิจจสมุปบาทฝ่ายคัมภีร์สันสกฤต จากคัมภีร์มหาวัสตุอวทาน และ คัมภีร์มัธยมกศาสตร์ของนาคารชุนคัมภีร์มูลมัธยมกการิกา หรือ มัธยมกศาสตร์ ของท่านนาคารชุน ปฏิจจสมุปบาทนี้เป็นหลักธรรมที่มีความสำคัญ มีสารัตถะที่ละเอียดลึกซึ้ง รู้ได้ยาก เห็นได้ยาก ดังนั้นทำให้ให้การตีความปฏิจจสมุปบาท จึงมีการตีความได้หลายแนวทางหลายทัศนะ แม้แต่พระพุทธโฆสาจารย์ ผู้ชำระอรรถกถา กล่าวไว้ใน คัมภีร์วิสุทธิมรรค ว่า “จะกล่าวพรรณนาปัจจยาการ ทั้งที่ยังหาที่อาศัยไม่ได้ เหมือนดังก้าวลงสู่สาครยังไม่มีที่เหยียบยัน ก็แต่ว่า คำสอนปฏิจจสมุปบาทนี้ ประดับประดาไปด้วยนัยแห่งเทศนาต่างๆ” เหตุว่าปฏิจจสมุปบาท เป็นธรรมอันลึกซึ่งมีความหมายละเอียดกว้างขวาง ซึ่งส่วนประเด็นประหาในการการตีความ ในที่นี้จะไม่กล่าวถึง อนึ่ง ผู้เรียบเรียงไม่ได้มีความรู้ความชำนาญในภาษาบาลีสันสกฤต บทความนี้เป็นแต่เพียงการเรียบเรียงการแปลใหม่ และนำเสนอ ปฏิจจสมุปบาทฝ่ายคัมภีร์สันสกฤต ไว้สำหรับเทียบเคียง ไม่ได้เป็นอรรถาธิบายหรือการตีความใดๆ ที่ชี้ไปในทัศนะใดทัศนะหนึ่ง ดังนั้นจึงใช้การทับศัพท์เฉพาะและ อธิบายศัพท์เทียบฝ่ายบาลีพอประมาณเท่านั้น หากมีข้อผิดพลาดอันใด ที่สามารถแก้ไขให้เกิดประโยชน์ได้ สามารถแจ้งผู้เรียบเรียงได้โดยตรง gclub slot

สุดยอดคุณธรรม”พระมหากัสสป”

June 18, 2019 shantideva 0

1.เป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา บุตรที่ดีต้องเคารพเชื่อฟังบิดามารดา พระมหากัสสปะขณะเป็นปิปผลิมาณพถึงแม้ยังไม่อยากแต่งงาน แต่เมื่อเป็นความประสงค์ของบิดามารดาก็พยายามปฏิบัติตาม shantideva.net 2.เป็นผู้มีสัจจะ เมื่อได้ลั่นวาจาว่า ถ้าบิดามารดาสามารถหาสตรีที่สวยงามดุจรูปหล่อทองคำก็ยินยอมแต่งงานด้วย ครั้งเมื่อมีสตรีที่งดงามเช่นนั้นจริงท่านก็ปฏิบัติตามสัญญาไม่ยอมคืนคำ 3.เป็นผู้ที่ความกตัญญูกตเวทีอย่างยิ่ง ข้อนี้ปรากฏชัดแจ้งเมื่อครั้งที่ พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ท่านได้ยินพระหลวงตารูปหนึ่งกล่าวดูหมิ่นพระพุทธเจ้า ท่านนึกสลดใจว่าต่อไปภายหน้าจะเป็นเช่นไร เมื่อพระองค์นิพพานไปแล้วท่านจึงเป็นกำลังสำคัญในการสังคายนาพระธรรมวินัย จัดการชำระพระศาสนาให้บริสุทธิ์ เป็นการตอบแทนพระคุณพระพุทธเจ้า 4.มีชีวิตเรียบง่าย ท่านชอบปลีกตัวไปอยู่สงบตามลำพังในป่า ถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร ถือบิณฑบาตเป็นวัตร อยู่ป่าเป็นวัตร สมเป็น “สมณะ”(ผู้สงบ)อย่างแท้จริง การมีชีวิตเรียบง่าย ไม่หรูหราฟุ่มเฟือยเกินจำเป็นนี้ ชาวบ้านสามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตจริงได้ตามเหมาะสม 5.เป็นตัวอย่างในทางที่ดีงาม ความเป็นคนเคร่งครัดในระเบียบวินัย การประพฤติขัดเกลาตนเองด้วยการถือธุดงค์อย่างเคร่งครัด ซึ่งความจริงแล้วท่านไม่จำเป็นต้องประพฤติปฏิบัติอย่างนั้นก็ได้ เพราะท่านเป็นพระอรหันต์ ไม่จำเป็นต้องขัดเกลาตนเองอีกต่อไปแล้ว แต่ที่ท่านเน้นความเคร่งครัดเป็นพิเศษ ก็เพื่อให้เป็นแบบอย่างแก่อนุชนภายหลังแบบอย่างอีกประการหนึ่งที่ท่านวางไว้ก็คือ “ความมีวิญญาณ” แห่งการสืบทอดพระศาสนาเมื่อคราวพระพุทธศาสนามัวหมองเพราะถูกหมิ่นหรือบิดเบือนความจริง แม้ท่านเป็นผู้สงบโดยนิสัยก็นิ่งดูดาย ได้ออกมาเคลื่อนไหวปกป้องทำความจริงให้ปรากฏและความเข้าใจให้กระจ่าง ดังได้เป็นการเป็นประธานในการสังคายนาพระธรรมวินัยดังกล่าวข้างต้น ซึ่งผลงานของท่านทำให้มีพระไตรปิฏกที่ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์สืบทอดต่อมาจนถึงทุกวันนี้ starvegas-slot.com

รูปภาพสวยๆพุทธประวัติชุด ก่อนออกผนวช ตอน ในวังหลวง

June 17, 2019 shantideva 0

ผมตั้งชื่อตอนเองครับ มาดูว่าก่อนที่จะออกผนวชเป็นพระพุทธเจ้านั้น..ท่านได้พบเจอ..อะไรบ้าง ..ซึ่งทำให้พระองค์เกิดอาการ ..เบื่อ..เซ็ง..แค่นี้เองเหรอ..ชีวิต หรือ สังขารา..ข้าพเจ้าต้องการหลุดพ้น!(ตะโกนในใจ) ..ที่เห็นในวังนี้ ..มันไม่ใช่..มันไม่ถืกต้อง ..มันบ่แม่น.. (เติมเอาทั้งนั้น) ..เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาอันมีค่าของท่าน ..เชิญทัศนะครับ..##คำเตือน..ห้ามดูต่ำกว่าวันละ 1 รอบ และห้ามเด็กอายุไม่เกิน 1 ขวบดูตามลำพัง ..ด้วยความปรารถนาดีจาก “ลูกใต้ใบ แก้ไข้ แก้ตัวร้อน” .. “อสิตดาบส” หรือบางแห่งเรียก”กาฬเทวิฬดาบส” พอท่านได้เห็นเจ้าชายสิทธัตถะ ก็ทำกริยาผิดวิสัยสมณะ ๓ อย่าง คือ ยิ้มหรือแย้ม หรือที่ภาษากวีในหนังสือปฐมสมโพธิเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า หัวเราะแล้วร้องไห้ แล้วกราบแทบพระบาทของเจ้าชายสิทธัตถะ เจ้าชายสิทธัตถะประทับนั่งสมาธิอยู่ใต้ต้นหว้า ก็เพราะพระราชบิดาทรงจัดให้มีพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เจ้าชายได้รับความวิ้วกก็เกิดสมาธิขั้นแรกที่เรียกว่า “ปฐมฌาน” พิธีแรกนาเสร็จตอนบ่าย พี่เลี้ยงวิ่งมาหาเจ้าชายได้เห็นเงาไม้ยังอยู่ที่เดิมเหมือนเวลาเที่ยงวันก็เกิดอัศจรรย์ใจ จึงไปกราบทูลพระเจ้าสุทโธทนะ พระราชบิดาเสด็จมาทอดพระเนตรก็เกิดอัศจรรย์ในพระทัย และได้ถวายอัญชลีเป็นครั้งที่สอง ธนูที่เจ้าชายสิทธัตถะยิงมีชื่อว่า “สหัสถามธนู” แปลว่าธนูที่มีน้ำหนักขนาดที่คนจำนวนหนึ่งพันคนจึงจะยกขึ้นได้ แต่เจ้าชายสามารถยกธนูนั้นขึ้นได้ดั่งสตรียกขึ้นซึ่งไม้กงดีดฝ้าย บรรดาพระญาติทั้งปวงได้เห็นแล้วต่างชื่นชมยินดียิ่งนักแล้วเจ้าชายลองดีดสายธนูก่อนยิง เสียงธนูดังกระหึ่มครึ้มครางไปทั้งกรุงกบิลพัสดุ์ เป้าที่เจ้าชายยิงธนูวันนั้น คือ ขนหางทรายจามรีที่วางไว้ในระยะหนึ่งโยชน์ ปรากฎว่าเจ้าชายยิงถูกขาดตรงกลางพอดี พระญาติทั้งปวง จึงยอมถวายพระราชธิดา ซึ่งมีพระนางพิมพายโสธรารวมอยู่ด้วย เพื่อคัดเลือกพระชายา พระญาติวงศ์ทั้งสองฝ่ายทรงเห้นพร้อมกันว่า พระนางพิมพายโสธราทรงพร้อมด้วยคุณสมบัติทุกอย่าง สมควรจะอภิเษกสมรสกับเจ้าชายสิทธัตถะ พระราชพิธีอภิเษกสมรสจึงได้มีขึ้นในสมัยที่เจ้าชายและเจ้าหญิงทรงมีพระชนมายุได้ ๑๖ ปีพอดี พอพระชนมายุมากขึ้นจนถึง ๒๙ ปีก็ทรงเกิดความเบื่อหน่าย ต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความรู้สึกในพระทัยเช่นนั้น อยู่ที่ทรงเห็นสิ่งที่เรียกว่า เทวทูตทั้ง ๔ ระหว่างทางในวันเสด็จประพาสพระราชอุทยานนอกเมืองด้วยรถม้าพระที่นั่ง พร้อมด้วยนายฉันนะ เทวทูตทั้ง ๔ คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และนักบวช gclub slot เจ้าชายสิทธัตถะทรงตัดสินพระทัยแน่วแน่แล้วว่าจะเสด็จออกบวช เสด็จไปยังห้องพระบรรทมของพระนางพิมพายโสธรา เมื่อเสด็จไปถึง ทรงเผยบานพระทวารออก ทรงเห็นพระชายากำลังหลับสนิท พระนางทรงทอดพระกรไว้เหนือเศียรพระราหุล โอรสผู้เพิ่งประสูติ พระองค์ทรงเกิดความเสน่หาอาลัยในพระชายา และพระโอรสที่เพิ่งได้ทอดพระเนตรเห็นเป็นครั้งแรกอย่างหนัก gclub slotเจ้าชายสิทธัตถะทรงพาม้าและมหาดเล็กข้ามแม่น้ำ อโนมานที แล้วเสด็จลงจากหลังม้าประทับนั่งบนหาดทราย อันขาวดุจแผ่นเงิน พระหัตถ์ขวาจับพระขรรค์แสงดาบ พระหัตถ์ซ้ายจับพระจุฬา คือยอดยอดหรือปลายพระเกศา กับพระโมฬี คือมุ่นพระเกศา หรือผมที่เป็นมุ่นมวย แล้วทรงตัดด้วยพระขรรค์แสงดาบ เหลือพระเกศาไว้ยาวประมาณ ๒ นิ้ว เป็นวงเวียนไปทางขวา ทรงมอบพระภูษาทรง และม้าพระที่นั่งให้นายฉันนะนำกลับไปกราบทูลแจ้งข่าวแก่พระราชบิดาให้ทรงทราบ gclub slot

พระอสุรินทราหูเทวโพธิสัตตว์.

June 16, 2019 shantideva 0

ในบรรดาเทพนพเคราะห์ทั้ง ๙ องค์ นั้นมีเพียงพระราหูพระองค์เดียวเท่านั้นที่เป็นพระโพธิสัตว์ และได้รับพระพุทธพยากรณ์แล้ว แม้พระอาทิตย์ และพระจันทร์ ผู้มีบุญญาธิการอันสูงส่ง ก็มิได้เป็นพระบรมโพธิสัตตว์ ดังเช่น พระราหู shantideva.net ดังนั้นการนับถือ บูชา พระราหูจึงไม่ใช่การบูชาภูตผีปีศาจ แต่เป็นการบูชาพระโพธิสัตว์ ในรูปกายแห่งเทพอสูร อันเป็นคติสอนให้พิจารณาว่า อย่ามองที่รูปกายภายนอก แม้ว่ารูปกายแห่งพระราหูจะดูดุดันน่ากลัว แต่คุณธรรมภายในนั้นกลับตรงข้าม พระราหู เป็นเทพอสูรที่บำเพ็ญบารมี เพื่อบรรลุพระโพธิญาณมานับชาติไม่ถ้วน ภายในจิตใจนั้นมีแต่ความปรารถนาดีต่อมวลมนุษย์ สิ่งเลวร้ายในชีวิตมนุษย์นั้นไซร้ ย่อมเกิดจากผลกรรมเก่า และใหม่ที่ตนก่อไว้ เมื่อถึงเวลา กรรมนั้นย่อมเป็นไปตามกลไกของมัน พระราหูเทพอสุรินทร์ เป็นเทพยุเจ้าผู้เป็นพยานแห่งการกระทำกรรมของมนุษย์ หาได้ให้ร้ายใครไม่ ! ️ ️ ส่วนเรื่องอิทธิฤทธิ์ของพระราหูนี้มีมากนัก แม้ว่าต่อมาจะเหลือร่างกายเพียงครึ่งเดียว แต่ก็ทรงตบะเดชะไม่เป็นสองรองใคร ซ้ำยังสามารถเข้าบดบังดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ได้ ซึ่งอำนาจในการบดบังดวงอาทิตย์นี้ ครูบาอาจารย์บางท่านได้กล่าวสรรเสริญไว้ว่า แม้ดวงอาทิตย์ที่ร้อนแรง ก็ยังมีพระราหูมาบดบังให้เยือกเย็น ท่านจึงว่าพระราหูนั้น มีคุณในการดับร้อนให้เป็นเย็น หรือมีอำนาจในการบังตาเป็นที่น่าอัศจรรย์ ! ในครั้งนั้น พระพุทธองค์ยังได้กล่าวถึงบุพกรรมแต่หนหลังของพระราหูว่า พระราหูเคยตั้งปณิธานไว้ว่า จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ซึ่งการบำเพ็ญบารมีของพระราหู ทุกภพชาติที่ผ่านมานั้น พระพุทธเจ้าตรัสรับรองว่าจะสำเร็จแน่นอนในอนาคตกาล โดยจะบรรลุ พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ทำให้พระราหูปลาบปลื้มโสมนัส และมีความเลื่อมใสในพระพุทธองค์ จนตั้งใจบำเพ็ญเพียรเพื่อพระโพธิญาณให้มากยิ่งขึ้น ในพระไตรปิฎกยังกล่าวอีกว่า พระราหูจะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า ” พระพุทธนารทตถาคตเจ้า” นับเป็นองค์ที่ ๕ ถัดจาก ” พระศรีอารยเมตไตรพุทธเจ้า” จากคติดังกล่าวนี้ จึงถือว่าพระอสุรินทราหู นั้นมีฐานะเป็นพระโพธิสัตว์ และเป็นหน่อเนื้อพระพุทธางกูรแห่งองค์พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นที่น่าเคารพบูชากราบไหว้ของชาวพุทธ ซึ่งการบูชาพระโพธิสัตว์ เป็นคตินิยมของมหายาน แต่ฝ่ายหินยานหรือในบ้านเรานั้น ก็รู้จักเรื่องพระโพธิสัตว์น้อยมาก ️ ️ พระโพธิสัตว์ บางครั้งมีรูปกายสวยงาม บางครั้งก็มีรูปกายน่ากลัว และสามารถบังเกิดในภพภูมิใดก็ได้ ดังเช่นพระราหู เป็นพระโพธิสัตว์ที่รูปกายน่ากลัว และเป็นพระโพธิสัตว์ ที่เกิดขึ้นในแดนอสูร ทำหน้าที่ดูแลรักษาพระพุทธศาสนา ให้พรคนดี ย่ำยีคนชั่ว บำเพ็ญบารมีสร้างภพชาติ เพื่อสืบพระพุทธสันตติวงศ์มิให้สิ้นสูญ โปรดสรรพสัตว์ให้พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด อันเป็นมหาบารมี มหาปณิธานอันยิ่งใหญ่ ดังนั้นจึงสมควรที่จะได้รับการเคารพบูชาเช่นพระโพธิสัตว์ และเทพเจ้าองค์อื่น ๆ เช่นกัน ในการอธิษฐานขอบารมีพระราหูที่ถูกต้องนั้น ให้อธิษฐานอ้างเอาคุณพระรัตนตรัยขึ้นก่อน จากนั้นอธิษฐานถึงพระราหูว่า ขออำนาจบารมี พระอสุรินทราหูเทวโพธิสัตว์เจ้า จงโปรดอำนวยอวยพรแด่ข้าพเจ้า แล้วจึงทำการอธิษฐาน ทั้งนี้เพราะพระราหูนั้น มีเพศเป็นแทตย์ และอยู่ในระดับอสูรเทพ และยังมีบารมีธรรมเป็นพระโพธิสัตว์ที่ได้รับพระพุทธพยากรณ์จากพระพุทธองค์ ว่าจะต้องสำเร็จมรรคผลโพธิญาณอย่างแน่แท้ พระโพธิสัตว์เจ้า ที่ได้รับพระพุทธพยากรณ์เช่นนี้จากพระพุทธเจ้า ถือว่าเป็นพระโพธิสัตว์หน่อพุทธางกูรเที่ยงแท้ บำเพ็ญบารมีถึงขั้น “อจลภูมิ ” แล้วจึงได้รับการขนานพระนามเป็นเกียรติว่า “พระบรมโพธิสัตว์” การอธิษฐานอ้างถึงคุณงามความดีของพระราหูดังกล่าว จึงถือเป็นอาราธนาคุณของพระราหูทั้งด้านบุญฤทธิ์ และอิทธิฤทธิ์ พร้อมกันในตัว เป็นสิริมงคลแก่ผู้ระลึกถึงเป็นอย่างมาก starvegas-slot.com

ดินแดนสุขาวดี พุทธเกษตรฝ่ายตะวันตก

June 15, 2019 shantideva 0

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ก่อนในอดีตกาลนานถึง 10 กัลป์นามว่า “พระอมิตาภะพุทธเจ้า” พระองค์ทรงมีพระฉวีอันสว่างไสวอันประมาณมิได้ พระฉวีแห่งพระองค์ส่องสว่างไปทั่วอย่างไร้ขอบเขตทั่วทั้งจักรวาล แต่เดิมพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ผู้ยึดมั่นในพระพุทธศาสนา ซึ่งในกัลป์นั้นมีพระพุทธเจ้าอุบัติ นาม “พระโลเกศวรราชพุทธเจ้า” พระองค์ทรงอยากฟังพระธรรมจากพระโลเกศวรราชพุทธเจ้า พระองค์จึงทรงจัดสถานที่ในพระอุทยานของพระองค์เป็นสถานที่ประทับแห่งพระพุทธเจ้าอย่างงดงาม โดยตกแต่งโดย ปลูกต้นตาลขึ้นเป็นแนว 7 แถว และมีตาข่ายทองคำพูดกั้นระหว่างกัน ยามลมพัดผ่านตาข่ายทองนั้นก็จะดังเหมือนเสียงบรรเลงดนตรีสวรรค์ และบริเ้วณรายรอบประดับประดาด้วยอัญมณีล้ำค่า และมีสระบัว 7 สระ ล้วนประดับประดาด้วยอัญมณีต่างๆมากมายอย่างดาษดา ซึ่งมีระบุว่าสระบัวนั้นจะมีดอบัวสีสันต่างๆ เ่ช่น ขาว ม่วง เหลือง ชมพู ขึ้นอยู่เต็มสระ และดอกหนึ่งจะบานก็มีขนาดดอกใหญ่เท่ากงล้อเกวียนว่า ไปเคยฐานบัวของพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ประทัับเลยนะนี้ และแต่ละสระบัวจะมีท่าสำหรับขึ้นและลงสระอย่างสะดวกสบายแล้วประดับด้วยอัญมณีอย่างสวยงาม และน้ำลึกพอประมาณที่กาสามารถก้มลงกินน้ำได้ มีเม็ดทรายเหลืองอร่ามดั่งทองคำ เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับและทรงเทศนาแก่กษัตริย์พระองค์นี้ พระองค์ทรงพยากรณ์ว่าำกษัตริย์พระองค์จะทรงเป็นพระพุทธเจ้าในกาลข้างหน้า และพระองค์จะเป็นใหญ่ในดินแดนสุขาวดี ที่มีลักษณะเหมือนกับพระอุทยานแห่งพระองค์ซึ่งมีสระบัวรายรอบ และมีพระวรกายส่องสว่างไปทั่วสามภพอย่างหาที่สุดมิได้ ชาวจีนเคารพในพระพุทธเจ้าพระองค์นี้มาก เพราะความเมตตาแห่งพระองค์ไม่มีที่สิ้นสุดเสมือนแสงสว่างแห่งพระวรกายพระิองค์ที่ไม่มีที่สุดสิ้นเช่นกัน และคาดว่าผู้ที่นำพระพุทธเจ้าพระองค์นี้เข้ามาสู่จีนจนกลายเป็นพระพุทธเจ้าที่ชาวจีนเคารพมากที่สุด ก็คือ เจ้าชายชาวปาร์เถียนแห่งอิหร่าน ชาวจีนเรียกพระองค์ว่า “งันเชเกา” คาสิโนออนไลน์