ในสมัยของพระพุทธเจ้าทีปังกร ณ เมืองปัจจันตคาม สาวน้อยนางหนึ่งนามว่า สุมิตตา ได้ร่วมกับชาวเมืองช่วยกันทำทางเพื่อรับเสด็จพระทีปังกรพุทธเจ้า และพระสาวก ในขณะที่ทุกคนกำลังหักร้างถางพงอยู่นั่นเอง ฤาษีตนหนึ่งนามว่า สุเมธดาบส ก็เหาะมาในอากาศ
สุเมธดาบส เห็นชาวเมืองชุมนุมกันอยู่จำนวนมาก จึงลอยตัวลงมาถามว่า ชาวบ้านมาชุมนุมกันเพราะเหตุใด ครั้นทราบว่าชาวบ้านกำล้งช่วยกันทำทางเพื่อรับเสด็จพระพุทธเจ้า สุเมธดาบส จึงอาสาร่วมมือด้วย
แต่ถึงแม้จะเร่งมือทำอย่างสุดชีวิต ทางก็ยังไม่เสร็จ เมื่อขบวนพระอริยสงฆ์มาถึง ก็ยังมีทางขาดอยู่ขนาดเท่าช่วงตัวพอดี ด้วยความศรัทธา สุเมธดาบสจึงนอนลงกับพื้นโคลน และนิมนต์ให้พระพุทธเจ้าและพระสาวกเดินเหยียบลงบนตัว ครั้งนั้น พระทีปังกรพุทธเจ้าทรงทำนายว่า ในภายภาคหน้าอีกหลายภพ หลายชาติ สุเมธดาบสจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
เมื่อสุมิตตาได้ยินดังนั้น ก็เกิดความเลื่อมใสในสุเมธดาบสสุดหัวใจ นางจึงรีบไปเก็บดอกบัวแปดดอกมาถวายพระพุทธเจ้า พร้อมทั้งขอพรจากพระองค์ว่า “ด้วยกุศลผลบุญที่หม่อมฉันได้สักการะบูชาพระพุทธองค์ในครั้งนี้ ขอให้สุเมธดาบสจงเป็นสามีของหม่อมฉันในภายภาคหน้าด้วยเถิด”
ด้วยแรงอธิษฐานของนาง ที่ได้ถวายดอกบัวแปดดอกในครานั้น ทำให้ทั้งคู่ได้เกิดเป็นคู่สามีภรรยากันอีกหลายภพหลายชาติ แม้บางชาติจะเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นสัตว์ทิพย์ หรือเป็นมนุษย์ แต่สุดท้ายก็สามารถบรรลุธรรมในชาติเดียวกัน
นางสุมิตตา ในครั้งนั้นคือพระนางพิมพา ส่วนสุเมธดาบส คือพระพุทธโคดม องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรานั่นเอง …….