ครุฑกับนาคตำนานแค้นสองเผ่าพันธุ์

July 2, 2019 shantideva 0

ตามตำนานของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เล่าว่า ในครั้งบรรพกาลยังมีมหาเทพฤษีองค์หนึ่งนามว่า พระกัศยปมุนี ซึ่งเป็นฤษีที่มีฤทธิ์เดชมากและเป็นผู้ให้กำเนิดเทพอีกหลายองค์จนถูกเรียก ขานว่า พระกัศยปเทพบิดร พระองค์มีชายาหลายองค์ โดยในบรรดาชายาทั้งหลายนั้นมีชายาสององค์ซึ่งเป็นพี่น้องกันนามว่า วินตาและกัทรุ นางทั้งสองได้ขอพรให้กำเนิดบุตรจากพระกัศยป โดยนางกัทรุได้ขอพรว่าขอให้มีบุตรจำนวนมาก ซึ่งต่อมาก็ได้ให้กำเนิดนาคหนึ่งพันตัว อาศัยอยู่ในแดนบาดาล ส่วนนางวินตาขอบุตรเพียงสององค์และขอให้ลูกมีอำนาจวาสนา ซึ่งเมื่อนางคลอดบุตร ก็ปรากฏว่าออกมาเป็นไข่สองฟอง ด้วยความทนรอดูหน้าบุตรไม่ไหว นางจึงทุบไข่ฟองหนึ่งและปรากฏเป็นเทพบุตรที่มีกายเพียงครึ่งบนชื่อ อรุณ อรุณเทพบุตรโกรธมารดาที่ทำให้ตนออกจากไข่ก่อนกำหนดจนมีร่างกายไม่ครบ จึงสาปให้มารดาของตนต้องเป็นทาสนางกัทรุโดยกำหนดให้บุตรคนที่สองของนางเป็น ผู้ช่วยนางให้พ้นจากความเป็นทาส จากนั้นจึงขึ้นไปเป็นสารถีให้กับพระอาทิตย์หรือสุริยเทพ นางวินตาจึงไม่กล้าทุบไข่ฟองที่สองออกมาดู และรอจนถึงกำหนด จนเมื่อไข่ฟักออกมา ก็ปรากฏเป็น พญาครุฑ ซึ่งเมื่อแรกเกิดนั้นก็มีร่างกายขยายออกใหญ่โตจนจรดฟ้า ดวงตายามกะพริบเหมือนฟ้าแลบ เวลาขยับปีกคราใด ขุนเขาก็จะตกใจหนีหายไปพร้อมพระพาย รัศมีที่พวยพุ่งออกจากกายมีลักษณะดั่งไฟไหม้ทั่วสี่ทิศ ในกาลต่อมา นางกัทรุและนางวินตาได้ท้าพนันกันถึงสีของม้าอุไฉศรพ (บางตำราก็ว่าม้าทรงรถของพระอาทิตย์) ที่เกิดเมื่อคราวกวนเกษียรสมุทรและเป็นสมบัติของพระอินทร์ โดยพนันว่าใครแพ้ต้องเป็นทาสอีกฝ่ายห้าร้อยปี นางวินตาทายว่าม้าสีขาว ส่วนนางกัทรุทายว่าสีดำ ซึ่งความจริงม้าเป็นสีขาวดังที่นางวินตาทาย แต่นางกัทรุใช้อุบายให้นาคลูกของตนแปลงเป็นขนสีดำไปแซมอยู่เต็มตัวม้า (บางตำนานว่าให้พ่นพิษใส่จนม้าเป็นสีดำ) นางวินตาไม่ทราบในอุบายนี้เลยยอมแพ้ จนต้องเป็นทาสของนางกัทรุถึงห้าร้อยปี ภายหลังเมื่อครุฑได้ทราบถึงสาเหตุที่มารดาต้องตกเป็นทาส จึงไปเจรจาขอให้พวกนาคยอมปล่อยมารดาตน พวกนาคจึงสั่งให้พญาครุฑไปเอาน้ำอมฤตมาให้เพื่อแลกกับอิสรภาพของนางวินตา พญาครุฑจึงบินไปสวรรค์ไปเอาน้ำอมฤตซึ่งอยู่กับพระจันทร์ แล้วคว้าพระจันทร์มาซ่อนไว้ใต้ปีก แต่ถูกพระอินทร์และทวยเทพติดตามมาและเกิดต่อสู้กันขึ้น ฝ่ายเทวดานั้นไม่อาจเอาชนะได้ ร้อนถึงพระวิษณุหรือพระนารายณ์ต้องมาช่วยขวางครุฑไว้และต่อสู้กัน ทว่าต่างฝ่ายต่างไม่อาจเอาชนะกันได้ ทั้งสองจึงทำความตกลงยุติศึก โดยพระวิษณุทรงให้พรแก่ครุฑว่าจะให้ครุฑเป็นอมตะและให้อยู่ตำแหน่งสูงกว่า พระองค์ ส่วนครุฑก็ถวายสัญญาว่าจะเป็นพาหนะของพระวิษณุและเป็นธงครุฑพ่าห์สำหรับปัก บนรถศึกของพระวิษณุอันเป็นที่สูงกว่า จากนั้น พญาครุฑก็นำหม้อน้ำอมฤตลงมา ทว่าพระอินทร์ได้ตามมาขอคืน พญาครุฑก็บอกว่าตนจำต้องรักษาสัตย์ที่จะนำไปให้เหล่านาคเพื่อไถ่มารดาให้พ้น จากการเป็นทาสและให้พระอินทร์ตามไปเอาคืนเอง จากนั้นครุฑได้เอาน้ำอมฤตไปให้นาคโดยวางไว้บนหญ้าคาและได้ทำน้ำอมฤตหยดบน หญ้าคา 2-3 หยด (ด้วยเหตุนี้ หญ้าคาจึงถือเป็นสิ่งมงคลในทางศาสนาพราหมณ์) ส่วนนาคเมื่อเห็นน้ำอมฤตก็ยินดี จึงยอมปล่อยนางวินตาให้เป็นอิสระ ขณะที่เหล่านาคพากันไปสรงน้ำชำระกายเพื่อเตรียมมาดื่มน้ำอมฤตนั่นเอง พระอินทร์ก็รีบมานำหม้อน้ำอมฤตกลับไป ทำให้พวกนาคไม่ได้กิน พวกนาคจึงเลียที่ใบหญ้าคาด้วยเชื่อว่าอาจมีหยดน้ำอมฤตหลงเหลืออยู่ ทำให้ใบหญ้าคาบาดกลางลิ้นเป็นทางยาว (เรื่องนี้กลายเป็นที่มาว่าทำไมงูจึงมีลิ้นเป็นสองแฉกสืบมาจนทุกวันนี้) แม้ว่าจะไถ่ตัวมารดากลับมาได้แล้ว แต่พญาครุฑยังแค้นใจที่พวกนาคใช้เล่ห์กลจนมารดาของตนต้องตกเป็นทาส ทำให้พญาครุฑและเหล่าลูกหลานรุ่นต่อมา ตั้งตนเป็นศัตรูกับพวกนาค โดยเหล่าครุฑจะโฉบลงมายังมหาสมุทรและโฉบนาคไปฉีกท้องจิกกินมันเปลวและทิ้ง ร่างไร้ชีวิตของนาคตกลงมหานที ข้างฝ่ายพวกนาคนั้นแม้จะพยายามต่อสู้แต่ก็ไม่อาจสู้ไหวจึงพากันเลื้อยหนีไป หลบภัยยังสะดือทะเล แต่ก็ถูกครุฑใช้ปีกโบกสะบัดจนน้ำลดแห้งและจับนาคไปฉีกท้องกิน เหล่านาคจึงพยายามกลืนหินใหญ่ลงท้องเพื่อถ่วงตัวให้หนัก ครุฑตนใดไม่รู้อุบายเวลาโฉบลงจับนาคก็ถูกหินที่นาคกลืนลงไปถ่วงน้ำหนักจนบิน ขึ้นไม่ไหวและจมน้ำตายส่วนครุฑที่รู้อุบายนี้ก็จะจับนาคทางหางและเขย่าจนนาค ต้องคายหินออกมา และนี่เองคือเรื่องราวความพยาบาทของพญาครุฑและพญานาค สองเผ่าพันธุ์สัตว์เทพเจ้าในตำนาน

ตำนานพระแม่กวนอิมโพธิสัตว์ องค์เจ้าแม่กวนอิม

May 18, 2019 shantideva 0

พระองค์เป็นธิดาของพระเจ้าเหมี่ยวจวงกับพระนางเซี่ยวหลินผู้ครองอาณาจักรซิงหลินอันยิ่งใหญ่ เป็นธิดาองค์ที่ 3 เจ้าแม่กวนอิมมีนามเดิมว่า เมี่ยวเซียง (เมี่ยวซัน) พระพี่นางองค์แรกชื่อ เมี่ยวเชง อภิเษกกับข้าราชการชั้นบัณฑิต มีสติปัญญาล้ำเลิศยิ่งนัก ส่วนองค์ที่ 2 อภิเษกกับนายทหาร เป็นแม่ทัพใหญ่ มีฝีมือในการรบพุ่ง เป็นที่เกรงกลัวแก่ข้าศึกศัตรู พระราชบุตรเขยทั้ง 2 จึงเป็นที่ปรึกษาสำคัญของพระเจ้าเหมี่ยวจวงในการทำศึกสงคราม พระองค์ต้องการแผ่อำนาจ ยึดครองเมืองอื่นๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุดไร้ความเมตตากับประชาชนในเมืองข้าศึก ซ้ำพระองค์ไม่ยอมรับนับถือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า กับเห็นว่าพระธรรมคำสอนของพระองค์สอนให้พ่ายแพ้อ่อนแอ

ศิวะมหาเทพ: การบูชา

May 17, 2019 shantideva 0

การบูชาพระศิวะ โต๊ะ หรือแท่นบูชา สามารถประดิษฐานร่วมกับเทพองค์อื่นๆได้ เช่น พระพรหม พระวิษณุ ศิวลึงค์ หรือครอบครัวของพระองค์ คือ พระแม่อุมา พระแม่กาลี พระแม่ทุรคา พระพิฆเนศ พระขันทกุมาร ควรปูโต๊ะหรือแท่นบูชาด้วย ผ้าสีขาว สีแดง สีเงิน โดยเฉพาะ ผ้าพิมพ์ลายหนังเสือ (หนังเสือเทียม) ท่านจะโปรดมาก แท่นหรือโต๊ะควรเป็นลายไม้ธรรมชาติ หรือทาสีด้วย สีดำสนิท สีแดง สีเงิน โดยไม่มีลายสีทอง (พระองค์ไม่โปรดสัญลักษณ์ที่สื่อถึงทองคำ เนื่องจากพระองค์ปฏิบัติโยคะอย่างสูงสุด มีความสมถะ เรียบง่าย) เครื่องสังเวย ของถวาย น้ำดื่ม นมสด (จืดหรือหวาน ไม่ปรุงแต่งกลิ่นหรือสี) ดอกไม้ สามารถใช้ดอกดาวเรือง ดอกบัว ดอกกุหลาบ ดอกไม้ป่าต่างๆ ทุกสี ทุกพันธุ์ กำยาน กลิ่นจันทน์ กลิ่นดอกบัว กลิ่นสมุนไพรและพรรณไม้ต่างๆ ผลไม้ ควรถวายผลไม้ที่มีกลิ่นหอมโชยอ่อนๆ รสชาติอ่อนๆ ไม่เปรี้ยวจัด ไม่หวานจัด หรือขมจัดเกินไป ผลไม้ไม่ควรปอกเป็นคำๆ ควรถวายทั้งเปลือก

สืบสานประเพณีพิธีคเณศจตุรถี และคเณศวิวาหะ (แต่งงานพระคเณศ)

May 16, 2019 shantideva 0

“พิธีคเณศวิวาหะ (สยุมพร) ในเทศกาลคเณศจตุรถี” พระศรีคเณศ หรือ พระพิฆเนศ เป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จของศาสนาพราหมณ์ฮินดู ที่มีประวัติมายาวนานหลายพันพันปีในชมพูทวีปแพร่ขยายไปทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ศาสนาพราหมณ์ฮินดูเข้ามาในดินแดนสุวรรณภูมิทั้งทางบกและทางน้ำอยู่ร่วมกับพระพุทธศาสนามหายานมานานกว่าสองพันปีในอาณาจักรศรีวิชัย ,ทวารวดี โดยเฉพาะลัทธิมนตรณานด้วยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้มีการติดต่อค้าขายกับชาวอินเดียมาแต่โบราณ ในเทศกาลคเณศจตุรถี หรือวันประสูติแห่งพระศรีคเณศ นั้นที่มีการทำพิธีบูชาและแห่ยิ่งใหญ่ในอินเดียและ

วิธีบูชาพระแม่สรัสวดี เทวีแห่งสรรพความรู้ ศิลปวิทยาการ

May 15, 2019 shantideva 0

พระนามของพระแม่สรัสวดี นั้นออกเสียงเรียกได้อีกหลายวิธี เช่น พระแม่สรัสวตี พระแม่สุรัสวดี พระแม่สุรัสวตี ฯลฯ พระแม่สรัสวดี คือชายาแห่งพระพรหมผู้สร้างโลก พระองค์ประทับอยู่ในวิมาน ณ สวรรค์ชั้นพรหม หรือพรหมโลก เป็นมหาเทวีหนึ่งในสามเทวีสูงสุด ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ในประเทศอินเดียยังมีแม่น้ำสายที่สำคัญมากที่ชื่อ สรัสวดี อีกด้วย พระสรัสวดี หรือ พระสุรัสวดี ทรงเป็นธิดาแห่งพระทักษะและนางประสูตร แต่ในมหากาพย์มหาภารตะนั้นมีการกล่าวถึงว่า พระกฤษณะคือผู้สร้างพระสุรัสวตี และคัมภีร์พระเวท

คัมภีร์ของพระพุทธศาสนา

May 13, 2019 shantideva 0

มื่อพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานได้ 3 เดือน สาวกผู้ได้เคยสดับฟังคำสั่งสอนของพระองค์จำนวน 500 รูป ก็ประชุมทำสังคายนากัน ณ ถ้ำสัตบรรณคูหา ใกล้เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ สอบปากคำกันอยู่ 7 เดือน จึงตกลงประมวลคำสอนของพระพุทธเจ้าได้สำเร็จเป็นครั้งแรก

รู้ไปโม้ด : ปรินิพพานของพระพุทธเจ้า (ตอนแรก)

April 26, 2019 shantideva 0

เรียนถามน้าชาติ พระพุทธเจ้าปรินิพพานอย่างไร ประชวรเป็นอะไรครับ ที่ว่าเพราะเนื้อสุกรจริงไหม ชาวพุทธ ตอบ ชาวพุทธ เมล์ข้อความนี้มาได้สักระยะหนึ่งแล้ว น้าชาตินำมาตอบเนื่องในวันวิสาขาบูชา อันประวัติบันทึกว่า เป็นวันคล้ายวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญที่สุดในศาสนาพุทธ 3 เหตุการณ์ด้วยกัน คือ การประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระโคตม

วีนัส เทพีแห่งความรัก เทพีแห่งความงาม

April 23, 2019 shantideva 0

อโฟรไดท์ หรือ วีนัส เป็นเทพเจ้าแห่งความรัก ความปรารถนา และความงาม ของกรีก ชื่ออื่นๆ ที่เรียกนอกจากนี้คือ “ไคพริส” (Kypris) “ไซธีเรีย” (Cytherea) ซึ่งเรียกตามสถานที่ ไซปรัส และ ไซธีรา ซึ่งเชื่อว่า เป็นที่เกิดของอโฟรไดท์ ในส่วนของศักดิ์สิทธิประจำตัวของอโฟรไดท์ คือ ต้นเมอร์เติล (Myrtle) นกพิราบ นกกระจอก และ หงส์

เทพอะพอลโล

อพอลโล เทพแห่งแสงสว่าง หรือ เทพแห่งดวงอาทิตย์

April 23, 2019 shantideva 0

อะพอลโล เป็นบุตรชายคนโตของมหาเทพซุส เป็นหนึ่งใน 12 เทพแห่งโอลิมปัส เป็นบุตรของซีอุส จอมเทพแห่งสวรรค์และนางเลโต เป็นเทพแห่งแสงสว่าง หรือ เทพแห่งดวงอาทิตย์ รวมถึงเป็นเทพแห่งสัจจะและการดนตรีด้วย เทพอะพอลโลถือได้ว่าเป็นเทพเจ้าที่รูปงามและยังเจ้าชู้เหมือนเทพซีอุสผู้เป็นพระบิดา อพอลโลมีน้องสาวฝาแฝดชื่ออาร์เทมีส

พระอินทร์

พระอินทร์ ผู้ปกครองสวรรค์และอภิบาลโลก

April 22, 2019 shantideva 0

พระอินทร์ เป็นเทวราช ตามคติในศาสนาฮินดู ศาสนาพุทธ และศาสนาเชน มีหน้าที่ปกครองสวรรค์และอภิบาลโลก ถือกำเนิดขึ้นในสมัยฤคเวท ต่อมาในสมัยที่ตรีมูรติอุบัติขึ้น พระอินทร์ก็ถูกลดบทบาทลงและเริ่มมีพฤติกรรมทางเพศมากขึ้น กระทั่งกลายเป็นเทวดาชั้นรองจากมหาเทพตรีมูรติในปัจจุบัน แต่ในรามเกียรติ์ พระอินทร์มีภรรยาชื่อนางกาลอัจนา

โพไซดอน เทพเจ้าแห่งท้องทะเลและมหาสมุทร

April 14, 2019 shantideva 0

โพไซดอน เป็นหนึ่งในสิบสอง เทพเจ้าโอลิมปัส ในเทพปกรณัมกรีก พระราชอาณาเขตหลักคือมหาสมุทร และพระองค์ทรงได้รับขนานพระนามว่า “สมุทรเทพ” นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงได้รับขนานพระนามว่า “ผู้เขย่าโลก” (Earth-Shaker) เนื่องจากบทบาทของพระองค์ในการก่อแผ่นดินไหว และ “ผู้กำราบม้า” (tamer of horses)

ซูส-เทพแห่งท้องฟ้า

ซูส เทพแห่งท้องฟ้า

April 14, 2019 shantideva 0

เทพซูส เป็นราชาแห่งทวยเทพ ผู้ปกครองเขา โอลิมปัส (Olympus) และเทพแห่งท้องฟ้าและฟ้าร้องของ ตำนานเทพปกรณัมกรีก สัญลักษณ์ประจำพระองค์คือสายฟ้า โคเพศผู้ นกอินทรี และต้นโอ๊ก นามของซีอุสแปลว่าความสว่างของท้องฟ้า นามของพระองค์ในตำนานเทพปกรณัมโรมันคือ เทพจูปิเตอร์ และนามในตำนานอีทรูสแคนคือเทพไทเนีย

พระแม่ธรณี เทพีผู้ค้ำจุนโลก

April 13, 2019 shantideva 0

พระแม่ธรณี หรือพระศรีวสุนธรา เป็นเทพแห่งพื้นแผ่นดินที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี ปรากฏในตำนานทั้งศาสนาพราหมณ์, ฮินดู และพุทธศาสนา โดยให้ความเคารพนับถือว่า “แผ่นดิน” เป็นจุดก่อเกิดสรรพสิ่งทั้งปวงในโลก เปรียบเสมือน “มารดา” ผู้หล่อเลี้ยงโลก จึงได้รับยกย่องว่าเป็น “เทพีผู้ค้ำจุนโลก” ความสำคัญใน “การบูชาพระแม่ธรณี”

เทพีอธีนา

เทพีอธีนา เทพีแห่งปัญญา

April 13, 2019 shantideva 0

เทพีอธีนา หนึ่งในสิบสองเทพแห่งโอลิมปัส เป็นเทพีแห่งปัญญา เนื่องจากเกิดมาจากส่วนหัวของ ซุส ประมุขแห่งเหล่าทวยเทพ ในขณะที่กำลังประชุมเหล่าเทพที่เทือกเขาโอลิมปัส เมื่อจู่ ๆ ซูสเกิดปวดศีรษะอย่างรุนแรง จึงได้ให้เฮเฟสตัส เทพแห่งการตีเหล็กใช้ขวานผ่าศีรษะออก ปรากฏเป็นอธีนาที่สวมชุดเกราะพร้อมหอกกระโดดออกมา

ท้าวเวสสุวรรณ เทพเจ้าแห่งยักษ์ เป็นหนึ่งในจาตุมหาราช

April 12, 2019 shantideva 0

ท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวรรณ เป็นเทพเจ้าแห่งยักษ์ เป็นหนึ่งในจาตุมหาราช ผู้คุ้มครองและดูแลโลกมนุษย์ สถิตอยู่บน สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ทรงอิทธิฤทธิ์อานุภาพมากประทับ ณ โลกบาลทิศเหนือ คนไทยโบราณนิยมนำผ้ายันต์รูปยักษ์ผูกไว้ที่หัวเตียงเด็กเพื่อป้องกันวิญญาณชั่วร้ายไม่ให้มารังควานแก่เด็ก